ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้การประจวบฯ เซ็นคำสั่งให้ สวป.อ่าวน้อย ออกจากราชการไว้ก่อน มีผลย้อนหลัง 10 ต.ค.ที่ผ่านมา นำข้อมูลส่วนบุคคลจากทะเบียนราษฎรไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่มีการเสนอข่าว พ.ต.ท. และเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ นำข้อมูลส่วนบุคคลจากทะเบียนราษฎรไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น มีรายงานว่า ได้มีหมายจับมาจากศาลอาญา มาที่ สภ.อ่าวน้อย เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ขณะปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นนำตัวไปสอบที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)
ต่อมา วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ได้มีคำสั่งจากตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ ให้ พ.ต.ท.กรรณบวร บุญเกิด สวป.สภ.อ่าวน้อย ออกจากราชการไว้ก่อน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2565 ลงนามคำสั่งโดย พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
โดยได้ประกันตัวในชั้นศาลวันที่ 11 ต.ค. ซึ่งบิดาได้นำหลักทรัพย์มาประกันตัวในชั้นศาล และศาลอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ผู้ต้องหาได้เดินทางมาที่ สภ.อ่าวน้อย เพื่อเซ็นรับทราบคำสั่งให้ออกจากราชการ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระดับสูงจากตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อสอบวินัย โดยจะนำข้อมูลจากพนักงานสอนสวน สอท.เพื่อประกอบสำนวนการสอบวินัยโดยจะให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน
มีรายงานเพิ่มเติมว่า พฤติการณ์ ของ พ.ต.ท.คนดังกล่าวได้เข้ารหัสเฉพาะของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าไปกดดูฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของผู้เสียหาย (ทร.14) นับครั้งไม่ถ้วน รวมทั้งความถี่ในการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร จนเป็นเหตุแห่งการสงสัยนั้น
แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า พ.ต.ท. มีการกล่าวอ้างว่า การให้ข้อมูลกับเพื่อนหญิงซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวง เป็นการนำไปใช้เพื่องานวิจัยในการเรียนระดับปริญญาโทเท่านั้น ไม่ใช่การนำไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยอ้างว่าเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม- สิงหาคม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีผลตอบแทนเป็นเงินโอนเข้าบัญชีเดือนละกว่า 6 แสนบาท