xs
xsm
sm
md
lg

“ชัยวุฒิ” ลุยล้างบางธุรกิจสีเทาออนไลน์ งัด “กม.PDPA” ฟันพวกลอบขายข้อมูลส่วนบุคคล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชัยวุฒิ” ใส่เกียร์ห้า สางปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ผนึกทุกหน่วยงานเร่งแก้ 5 รูปแบบต้มตุ๋น เผย ปีนี้ศาลหวดผิด พ.ร.บ.คอมฯ ไปแล้ว 184 คำสั่ง ฮึ่ม จนท.รัฐ-เอกชน ลอบขายข้อมูลบุคคลผิด กม.PDPA ชี้ โทษหนักคุกหัวโต

วันนี้ (29 ต.ค.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกำลังเข้าจับกุมแก๊งแอปพลิเคชันพนันออนไลน์ชาวจีนกว่า 50 คน มีเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท ว่า ขอขอบคุณตำรวจทุกฝ่าย ทั้งตำรวจไซเบอร์ ตำรวจนครบาล และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่เร่งรัดกวาดล้างปัญหาอาชญากรรม ทั้งอาชญากรรมออนไลน์และสถานที่อโคจรต่างๆ ทั้งอาชญากรรมออนไลน์ และสถานที่อโคจรต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของประเทศในห้วงของการประชุมเอเปก 2022

นายชัยวุฒิ เปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของดีอีเอสได้ประชุมติดตามสถานการณ์และหาแนวทางเร่งรัดและแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดแก้ปัญหา

รมว.ดีอีเอส กล่าวอีกว่า โดยเฉพาะการหลอกลวงทางการเงินใน 5 ด้าน ได้แก่ 1. แก๊งคอลเซนเตอร์ 2. แชร์ลูกโซ่-ระดมทุนออนไลน์ 3. พนันออนไลน์ 4. บัญชีม้า และ 5. การหลอกหลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ ซึ่งคนร้ายมีการปรับรูปแบบ และวิธีการหลอกหลวงประชาชนจนมีเหยื่อหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก และมีการจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง จากสถิติผู้กระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คอมพิวเตอร์ฯ นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 24 ต.ค. 65 ศาลมีคำสั่งลงโทษผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แล้ว 184 คำสั่ง มี URLs ที่ผิดกฎหมายจำนวน 4,736 URLs

นายชัยวุฒิ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ล่าสุด ทางตำรวจยังสอบสวนขยายผลกรณีแก๊งคอลเซนเตอร์ พบเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นตัวการในการขายข้อมูลในระบบราชการของประชาชน ซึ่งเรื่องนี้มีความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ของดีอีเอสโดยตรง ฐานนำข้อมูลส่วนบุคคลผู้อื่นไปขาย มีโทษอาญา จำคุกสูงสุด 1 ปีต่อกรรม หากขายข้อมูล 10 คน ก็จะมีโทษถึง 10 ปี ถ้า 100 คน โทษก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 100 ปี และยังมีความผิดฐานเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มีโทษอาญา จำคุก 2 ปี และหากขายข้อมูลจนทำให้เสียหายเป็นวงกว้างทางสังคม โทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี  

“ขอเตือนเจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชน บุคคลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคนอื่นๆ ได้ ให้ระวังการกระทำที่ผิดกฎหมาย” นายชัยวุฒิ ระบุ

นายชัยวุฒิ เปิดเผยด้วยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับงานด้านนี้ ให้ความสำคัญกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสัปดาห์หน้าได้นัดประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์หน้าเพื่อเร่งรัดการทำงาน ให้เป็นรูปธรรม ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น