xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.สั่งปรับโฉมศูนย์ PCT เพิ่มประสิทธิภาพระบบแจ้งความออนไลน์-การบริหารคดี ลุยปราบอาชญากรรมทางไซเบอร์ทุกรูปแบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ผบ.ตร.เดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ทุกรูปแบบ สั่งปรับโฉม ศปอส.ตร. หรือ ศูนย์ PCT เพิ่มประสิทธิภาพระบบแจ้งความออนไลน์ การบริหารคดี

วันนี้( 29 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 468/2565 ลงวันที่ 21 ต.ค. 65 เรื่องการรับแจ้งความและการบริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการมอบหมายอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.)

เนื่องจากปัจจุบันคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการกระทำความผิดที่หลากหลายซับซ้อนมากขึ้น เพื่อให้การดำเนินการรับแจ้งความและการบริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงได้ออกคำสั่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 65 เป็นต้นไป

คำสั่งดังกล่าว มีใจความสำคัญ อาทิ ขั้นตอนการปฏิบัติกรณีผู้แจ้งมาแจ้งความร้องทุกข์ หรือกล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่สถานีตำรวจหรือหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวน (Walk in), ขั้นตอนการปฏิบัติกรณีผู้แจ้งได้แจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์, การกำหนดลักษณะคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้สถานีตำรวจหรือหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนรับผิดชอบทำการสอบสวน ดังนี้ คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า ซื้อขายบริการ คดีข่มขู่หรือคุกคามทางเพศ คดีหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือข่มขู่คุกคาม คดีหลอกลวงให้โอนเงินที่ไม่มีลักษณะเป็นขบวนการ ให้สถานีตำรวจหรือหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนในสังกัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1-9 รับผิดชอบการสอบสวน

คดีหลอกลวงเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน คดีหลอกลวงให้รักแล้วโอนเงิน คดีหลอกลวงให้รักแล้วลงทุน คดีข่าวปลอม คดีที่กระทำต่อระบบหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยผิดกฎหมาย คดีเรียกค่าไถ่ทางคอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม คดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่เป็นขบวนการ คดีหลอกลวงให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน คดีหลอกลวงเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล คดีหลอกลวงให้ลงทุนที่ไม่เข้าลักษณะฉ้อโกงประชาชน คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัลหรือสิทธิประโยชน์ คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า บริการ ข่มขู่คุกคาม หลอกโอนเงินที่เป็นขบวนการ หรือมีผู้เสียหายจำนวนมากหลายพื้นที่ ให้หน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนในสังกัดตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รับผิดชอบการสอบสวน

คดีหลอกลวงให้ลงทุนที่เข้าลักษณะฉ้อโกงประชาชน แชร์ลูกโซ่ คดีกู้เงินออนไลน์ที่เรียกดอกเบี้ยเกิดอัตรา คดีหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศ หรือค้ามนุษย์ที่มีลักษณะเป็นขบวนการ ให้หน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง รับผิดชอบทำการสอบสวน

ทั้งนี้ ให้ ศปอส.ตร. เป็นหน่วยรับแจ้งคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ และทำการรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบวิเคราะห์ความเชื่อมโยงและลักษณะคดี ควบคุมระบบรับแจ้งความออนไลน์ ส่งเรื่องไปยังสถานีตำรวจ หรือ หน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ เพื่อให้พนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์หรือคำกล่าวโทษตามระเบียบและทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังได้ประชุมศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ครั้งที่ 8/2565 ประจำเดือนตุลาคม การประชุมครั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติ บูรณาการการทำงานร่วมกัน เสมือนว่าเป็น “สถานีตำรวจประเทศไทย” สามารถประสานการปฏิบัติกันได้โดยตรง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ให้มีผู้ประสานงานแต่ละสถานี ศูนย์ PCT, บก. และภาค

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ ผบช. และ ผบก.ให้ความสำคัญ และเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองทุกครั้ง โดยให้ประชุมติดตามงานในหน่วยอย่างน้อยเดือนละ 2-4 ครั้ง, ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ออกตรวจเยี่ยมเยียนสถานีตำรวจ กองบังคับการ ตรวจสอบกำกับดูแลให้มีการลงข้อมูลให้ครบถ้วน ถูกต้องเป็นปัจจุบัน และการดำเนินการของสถานีตำรวจในภารกิจหลัก และภารกิจสนับสนุนการปฏิบัติของ สอท.และ บช.ก. ซึ่งให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับออกตรวจการปฏิบัติงานของหน่วยในสังกัดเพื่อรับทราบปัญหาข้อขัดข้องแล้วนำมาแก้ไขหากหน่วยปฏิบัติต่างๆ เกิดปัญหาข้อขัดข้องในระหว่างการปฏิบัติงาน สามารถเสนอปัญหา รวมทั้งข้อเสนอแนะมายัง ศปอส.ตร. ได้ตลอดเวลา

กรณีผู้เสียหาย walk in ให้พนักงานสอบสวนแนะนำและช่วยเหลือให้ผู้เสียหายลงในระบบรับแจ้งความออนไลน์ทุกรายและให้สอบสวนปากคำผู้เสียหายตามคำสั่ง ตร.ที่ 468/2565 ลง 21 ต.ค. 65 เรื่องการรับแจ้งความและการบริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบ หากตรวจพบว่าไม่มีการลงในระบบและสอบสวนปากคำผู้เสียหายตามนัยคำสั่งข้างต้น จะพิจารณาข้อบกพร่องหัวหน้าสถานีและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้ ผบช.สอท.ในฐานะเลขานุการ ศปอส.ตร. กำหนดแบบฟอร์ม สำหรับการตรวจกำกับดูแลของผู้บังคับบัญชาระดับ บช./ภ. บก./ภ.จว. เพื่อให้การกำกับดูแลในการรับแจ้งความออนไลน์เป็นไปแนวทางเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น