พ.ต.ต.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับลงทะเบียนรับค่าตอบแทนจากรัฐบาล 50,000 บาท เพื่อช่วยเหลือการว่างงานสำหรับทุกครอบครัว ซึ่งทางสำนักงานประกันสังคมไม่มีการจัดทำโครงการดังกล่าว
พ.ต.ต.หญิง ณพวรรณ เปิดเผยว่าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ได้ตรวจสอบไปที่สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน แล้ว พบว่าเป็นข้อมูลเท็จ ทางสำนักงานประกันสังคมไม่มีการจัดทำโครงการดังกล่าว อีกทั้งเว็บไซต์ดังกล่าวยังแอบอ้างใช้สื่อโฆษณาของสำนักงานประกันสังคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หลงเชื่อว่าสำนักงานประกันสังคมมีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นการทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ ซึ่งการผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน
การกระทำของผู้โพสต์ เข้าข่ายโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันเป็นการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มีโทษทั้งจำและปรับ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอม และผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจัง
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยเรื่องการแชร์ข่าวปลอม หรือ Fake news ทำให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารที่บิดเบื้อน สร้างความเสียหายให้กับประเทศ ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งปราบปราม ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ดังนั้น อยากขอให้พี่น้องประชาชนรับฟังข่าวสารอย่างมีวิจารณญาณ อย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานประกันสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 และสามารถติดตาม แจ้งเบาะแสข่าวปลอมได้ ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม โทรศัพท์สายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 เพื่อหลีกเลี่ยงจากการเป็นเหยื่อข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือน
พ.ต.ต.หญิง ณพวรรณ เปิดเผยว่าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ได้ตรวจสอบไปที่สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน แล้ว พบว่าเป็นข้อมูลเท็จ ทางสำนักงานประกันสังคมไม่มีการจัดทำโครงการดังกล่าว อีกทั้งเว็บไซต์ดังกล่าวยังแอบอ้างใช้สื่อโฆษณาของสำนักงานประกันสังคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หลงเชื่อว่าสำนักงานประกันสังคมมีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นการทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ ซึ่งการผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน
การกระทำของผู้โพสต์ เข้าข่ายโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันเป็นการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มีโทษทั้งจำและปรับ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอม และผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจัง
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยเรื่องการแชร์ข่าวปลอม หรือ Fake news ทำให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารที่บิดเบื้อน สร้างความเสียหายให้กับประเทศ ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งปราบปราม ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ดังนั้น อยากขอให้พี่น้องประชาชนรับฟังข่าวสารอย่างมีวิจารณญาณ อย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานประกันสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 และสามารถติดตาม แจ้งเบาะแสข่าวปลอมได้ ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม โทรศัพท์สายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 เพื่อหลีกเลี่ยงจากการเป็นเหยื่อข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือน