รอง ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 4 คดี ผู้ต้องหาเป็นชาวจีนและไต้หวัน หลังก่อคดีได้หลบหนีเข้ามาในไทย
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 4 คดี
โดยคดีแรกจับกุม นายหลี่ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยประกอบกิจการทวงหนี้โดยผิดกฎหมาย ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ขณะหลบหนีเข้ามาซื้อคอนโดอยู่ในพื้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรี และใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย โดยซื้อทรัพย์จำนวนมากจากเงินที่หลอกลวงมา สำหรับ นายหลี่ ถือว่าเป็นผู้ต้องหาคดีทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศจีน ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนต้องการตัวเพื่อส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศจีนเป็นอย่างมาก
คดีที่สอง จับกุม นายไฉ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ความผิดฐาน ผลิต จำหน่าย ขนส่งและครอบครองอาวุธปืนกับกระสุนปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามที่สำนักงานกงสุล (ฝ่ายตำรวจ) ณ นครคุนหมิง มีหนังสือแจ้งมายังกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะจับกุมผู้ต้องหาไม่มีหนังสือเดินทางและลักลอบหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม.ไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร จึงแจ้งข้อกล่าวหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดี
คดีที่สาม จับกุม นายต้าลี่ (นามสมมติ) อายุ 36 ปี สัญชาติจีน บุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วยการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงาน” สืบเนื่องจากสอบปากคำขยายผลผู้เสียหายคนไทยที่ทำงานคอลเซ็นเตอร์แล้ว ถูกส่งตัวกลับจากประเทศกัมพูชา ให้การว่า มีคนจีนเป็นคนชักชวนและหลอกลวงไปทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ และ นายต้าลี่ เป็นคนสั่งการให้จัดหาและหลอกลวงคนไทยเพื่อนำพาไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา และบังคับข่มขู่ให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์ จึงนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
และคดีสุดท้าย จับกุม นายเฉิน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี สัญชาติไต้หวัน โดยกล่าวหาว่าเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากไม่มีหนังสือเดินทางแสดง และเมื่อตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. ผลการตรวจสอบไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด สอบถามผู้ต้องหาให้การว่า ถูกเพื่อนชาวไต้หวันชักชวนให้ไปทำโรแมนซ์ สแกม ในประเทศกัมพูชา โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 3 เดือน แต่หาลูกค้าไม่ได้ ทางนายจ้างจึงจะขายให้กับนายจ้างอื่น ตนเกรงว่า จะเกิดอันตรายจึงหลบหนีนายจ้างและลักลอบหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ทางช่องทางธรรมชาติ ไม่ทราบว่าในพื้นที่จังหวัดใด เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2565 เพื่อต้องการจะเดินทางต่อไปยังประเทศเมียนมา และจากการตรวจสอบกับหัวหน้าแผนกประสานงานอาชญากรรม ประจำประเทศไทย กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติไต้หวัน แจ้งว่า นายเฉิน เป็นผู้ต้องหาที่ทางการไต้หวันต้องการตัวโดยในช่วงกลางปี พ.ศ. 2564 ร่วมกับพวกรวม 15 คน รุมทำร้ายผู้เสียหายเพื่อนร่วมชาติ โดยนายเฉินใช้ไม้ตีผู้เสียหายจนถึงแก่ความตาย ทางการไต้หวันออกหมายจับในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย