พิษณุโลก - ส่องสนามเลือกตั้ง ส.ส.เมืองสองแคว..เริ่มเห็นชัด “พรรคภูมิใจไทย” ในเขตเมืองลงตัว คัตเอาต์-ไวนิลคนเก่าถึงกับต้องรื้อทิ้ง หลังเจอ "บิ๊กเนฯ" ตัวจริงการันตี ส่วน "จุติ" คาดหวนคืนระบบเขต แต่ลุ้นใส่เสื้อสีเดิมๆ ที่ “ไกรฤกษ์” อยู่มา 3 รุ่นหรือเสื้อตัวใหม่กันแน่
สมรภูมิการเลือกตั้ง ส.ส.พิษณุโลก เริ่มชัดเจน ทิศทางแรงดึงดูด “ว่าที่ผู้สมัคร” คนดังวิ่งกันฝุ่นตลบ ตบเท้าเข้าพรรคภูมิใจไทยเกือบครบ
โดยเฉพาะสนามเลือกตั้งเขต 1 พิษณุโลก ที่ห้วง 2 เดือนก่อนมีการแข่งขันกันติดป้ายใหญ่โตในนาม "พรรคภูมิใจไทย" ระหว่างนายอนุชิต โมลา กำนันบ้านกร่าง ในสายของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี รองหัวหน้าพรรคฯ กับ ส.ส.นิด หรือ นายเกษมสันต์ มีทิพย์ (เดิม ส.ส.สังกัดพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกยุบปี 63 ย้ายไปสังกัดพรรคก้าวไกล) ในสายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคฯ อีกรายก็ติดไวนิลไปทั่วเมืองสองแคว จนทำให้ชาวเมืองสองแควต่างสงสัยว่า ใครคือตัวจริง
ณ วันนี้ ได้รับการยืนยันแล้วว่า นายบวรเดช หล้าแหล่ง (ปาล์ม) คว้าชิ้นปลามัน เขาคือ..อดีตผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติ (เดิมก่อนถูกยุบ) และอดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลกครั้งล่าสุด มีคะแนนโพลสำรวจจากคนเมืองพิษณุโลกตัวเลขถึง 2 หลัก ขณะที่กำนันอนุชิตกับ ส.ส.นิด โพลสำรวจมีตัวเลขเพียงหลักเดียว
และที่สำคัญ “ปาล์ม-บวรเดช” มีภาพคู่ประกบคนดัง "เนวิน ชิดชอบ" แห่งพรรคภูมิใจไทยการันตีอีกด้วย ซึ่งต้องไปแข่งขันกับแชมป์เก่า คือ หมออ๋อง-ส.ส.ปดิพัทธ์ สันติภาดา พรรคก้าวไกล ที่ตระเวนหาเสียงต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งขันอีกมากมายในเขตตัวเมือง เช่น ”พรรคเพื่อไทย” น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท (ลูกสาว "เปรมฤดี ชามพูนท" นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก) และ "พรรคพลังประชารัฐ" ส.จ.อดุลยวิทย์ วิวัฒน์ธนาฒย์ ลูกชายนายกอบจ.พิษณุโลก ที่ถือสายแข็ง-เลขาธิการ พปชร. ทำให้นายธนิท นันทน์ธัญมน "ลูกชาย-เศรษฐา กิตติจารุรักษ์" (อดีตผู้สมัครพลังประชารัฐ) หันไปซบพรรคประชาธิปัตย์แทน นอกจากนี้ยังมีนายมงคล เหลี่ยมวัฒนกุล (หน้าใหม่) สังกัด "พรรคไทยสร้างไทย" จ่อลงสนามอีกคน
ด้วยคนเด่นคนดังจ่อลงกันเพียบ..ทำให้คอการเมืองมองว่าสนามเลือกตั้งเขต 1 พิษณุโลก คะแนนเสียงแตก
แต่ที่เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ได้ตัว "อิทธิพล บุบผะศิริ" อดีตรองนายกอบจ.พล.เรียกว่า ที่เพิ่งผ่าน "โรงเรียนฝึกการบิน" สายการเมืองมาหมาดๆ ขยันลงพื้นที่ เตรียมเดินหน้าโค่นแชมป์เก่าอย่าง ส.ส.นพพล เหลืองทองนารา พรรคเพื่อไทย (32,956 คะแนน) และยังมี จ.ส.อ.พัฒนปกรณ์ ดอนตุ้มไพร (จ่าเจี๊ยบ) ที่ขยันออกงานทุกวัน มีคะแนนสูงสมัยเลือกตั้งครั้งที่แล้วในนามพรรค พปชร.(27,603 คะแนน) เพียงแต่อดใจรอลุ้นว่า "ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า" จะไปสังกัดพรรคไหนกันแน่เท่านั้น นอกจากนี้ยังมี ส.จ.ศิริชิน ญาณพิทักษ์พงษ์ ที่เพิ่งลุกจากเก้าอี้มาอยู่พลังประชารัฐ
เขต 3 นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พลังประชารัฐ แชมป์เก่า (24,063 คะแนน) ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ตามสาย "ชาดา ไทยเศรษฐ์" ซึ่งเคยเอาชนะคนในสังกัดของ "จุติ ไกรฤกษ์ ปชป." คือ นายพงษ์มนู ทองหนัก อดีตผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ อย่างเฉียดฉิว (23,643 คะแนน)
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 65 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ.พิษณุโลก พร้อมคณะผู้บริหารมอบแจกันดอกไม้แสดงความยินดีกับ นายพงษ์มนู ทองหนัก ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกไปเรียบร้อย ถือว่าไปฝึกร่ำเรียนวิชา ก่อนลงสนามใหญ่รอบหน้า
นั่นประเมินว่า นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม. ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.หลายสมัย เตรียมเคลียร์พื้นที่เลือกตั้งในระบบเขตแทน หวั่นว่าอันดับปาร์ตี้ลิสต์ครั้งนี้คงไม่ใช่อันดับ 8 เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะดันไปสนิทกับ "ลุงตู่" มากกว่า หน.พรรคฯ เสียอีก เพียงแต่ลุ้นว่าลุงตู่เล่นการเมืองต่อหรือไม่ ถ้าลงจะลงเสียบหัวลงพรรคใด แต่ "ฯพณฯ จุติ" ก็เอาชัวร์ไว้ก่อน ลงระบบเขตฯ อีกทั้งยังมีเวลาเลือกอีกว่า จะเลือกสวมเสื้อฟ้าเดิม-ประชาธิปัตย์ซึ่งเหนียวแน่นครองใจ "ตระกูลไกรฤกษ์" มา 3 รุ่น หรือจะเลือกสวมเสื้อใหม่ ฉีกแนวในรุ่นนี้ กันแน่?
เขต 4 นายนิยม ช่างพินิจ ถือเป็น ส.ส.ระดับ "เอบวก" ของ "พรรคภูมิใจไทย" มีคะแนนท่วมท้น 40,252 คะแนน (สมัยพรรคเดิม-เพื่อไทย) ครองใจคน อ.บางระกำ อ.บางกระทุ่ม มาหลายสมัย แต่รอบนี้นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ (ชื่อเดิมนางปานทิพย์) สังกัดพรรคเพื่อไทย เดินลงพื้นที่เช็กกระแสดูว่า ยังมีสายเสื้อแดงจำนวนมากเพียงใด จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 137,531 คน
เขต 5 นายนคร มาฉิม สังกัดพรรคภูมิใจไทย ซุ่มเงียบมานาน ติดป้ายพรรคแต่ยังไม่ติดป้ายแนะนำตัว เพราะชื่อนี้ การันตีความเป็นทนายช่วยเหลือคน อ.นครไทย มาก่อน รอบที่แล้วเจอคนใน อบจ. อย่าง "นายมานัส อ่อนอ้าย" ชนะไป เพราะใส่เสื้อพรรคพลังประชารัฐ มีทหารหนุน แต่รอบนี้ "ส.ส.มานัส" คู่ต่อสู้ของ "นคร" ร่างกายอ่อนแรงลงไปเยอะ คนในวงการเชื่อว่า "ส.ส.นคร" จะกลับมา อีกทั้งไม่น่าจะมีคู่แข่งของพรรคประชาธิปัตย์ที่แข็งแกร่งแล้ว