กาฬสินธุ์-รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พนังกั้นลำชีแตก เร่งนำเครื่องจักรกลหนัก วัสดุ อุปกรณ์ซ่อมแซมอุดรอยขาด คาดหากไม่มีอุปสรรค จะใช้ระยะเวลา 7 วันซ่อมแซมแล้วเสร็จ
จากเหตุพนังกั้นแม่น้ำชีขาดกว่า 50 เมตร ที่บริเวณ กม.6 บ้านสะดำศรี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ส่งผลให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายร้อยหลังคาเรือน ในพื้นที่ ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย นอกจากนี้มวลน้ำมหาศาลยังเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรนาข้าวหลายพันไร่ และขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ เนื่องจากจุดพนังขาดยังไม่สามารถอุดรอยแตกได้
ล่าสุดวันนี้ ( 18 ต.ค.) นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายธนภัทร ณ ระนอง ปลัด จ.กาฬสินธุ์, นายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอฆ้องชัย, นายสมชิด ชนะบุญ นายกอบต.ลำชี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน อาสาสมัครกู้ภัยเมตตาธรรม กู้ภัยกาฬสินธุ์จุดฆ้องชัย กู้ภัยร้อยเอ็ด ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ที่บริเวณพนังกั้นแม่น้ำชีแตก บ้านสะดำศรี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์
ในส่วนการซ่อมแซมพนังลำชี เจ้าหน้าที่เร่งนำเครื่องจักรกลหนัก และเครื่องจักรชนิดต่างๆ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์จากสำนักชลประทานที่ 6 ขอนแก่น, ชลประทานกาฬสินธุ์, อบจ.กาฬสินธุ์, แขวงทางหลวงชนบทกาฬสินธุ์ แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว มาประจำการ พร้อมลงมือตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ เบื้องต้นมีการเคลียร์พื้นที่ให้เครื่องจักรกลหนักสามารถเคลื่อนเข้าไปถึงจุดให้ได้ก่อน และเริ่มดำเนินการช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากพนังถูกกระแสน้ำตัดขาดความยาวกว่า 50 เมตร และกระแสน้ำยังไหลเชี่ยว มีความแรงและเกิดร่องลึก เพราะถูกน้ำกัดเซาะ เป็นอุปสรรคการซ่อมแซม โดยแนวทางการซ่อมแซมจะเริ่มจากวางนำกล่องแกเบรียลบรรจุหิน บรรจุก้อนหินขนาดใหญ่ลงไปก่อน ลดความแรงของน้ำ และดำเนินการซ่อมแซมตามขั้นตอนต่อไป หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าภายใน 5- 7 วันน่าจะแล้วเสร็จ
ส่วนการอพยพประชาชน สัตว์เลี้ยง และการรักษาทรัพย์สินชาวบ้านพื้นที่ประสบอุทกภัยนั้น นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่เข้าไปรับด้วยตัวเอง ส่วนการลำเลียงผู้ป่วยติดเตียงจะมีทีมอาสาสมัครกู้ภัยเมตตาธรรม ทีมตอบโต้ภัยพิบัติกาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ทีมกู้ชีพ กู้ภัยในพื้นที่เข้าไปรับตัวขนย้ายออกมาพื้นที่ปลอดภัย
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความมั่นคง ตำรวจ ทหาร อส.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครกู้ภัยยังได้จัดเรือลาดตะเวน จัดเวรเฝ้าหมู่บ้าน ป้องกันการโจรกรรม ป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาส และเพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งได้รับการสนับสนุนเรือจากประมงจังหวัด รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง งดเดินทางเข้าจุดเกิดเหตุ เพราะพื้นที่แคบอาจได้รับอันตรายจากเครื่องจักรขณะทำงานและลดการกีดขวางการทำงาน
ขณะที่นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการคมนาคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทกาฬสินธุ์ และแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ยังคงลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พังชีขาด พร้อมทั้งวางแนวทางแก้ไขด้วยความรวดเร็ว พร้อมนำเครื่องจักรเข้าช่วยเหลือ
สำหรับการสำรวจความเสียหายเบื้องต้น น้ำท่วมครัวเรือนในบริเวณ ตำบลลำชี จำนวน 4 หมู่บ้าน 381 หลังคาเรือน ผู้ได้รับผลกระทบ 700 คน ปัจจุบันภัยยังไม่สิ้นสุดและขยายเป็นวงกว้าง ความเสียหายคาดว่าจะได้รับผลกระทบจำนวน 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน 1,017 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,701 คน พื้นที่การเกษตร 20,000 ไร่ และคาดว่าจะขยายวงกระทบในพื้นที่ตำบลธัญญา และตำบลเจ้าท่า อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์อีกด้วย