ราชบุรี - ชาวบ้านในจังหวัดราชบุรี รวมตัวกว่า 200 คน คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าและท่อแก๊ส พร้อมทั้งยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
วันนี้ (19 ต.ค.) นายไชยา เอี่ยมสะอาด ส.จ.อ.ดำเนินสะดวก พร้อมด้วย นายสุทธิเดช ริมธีระกุล ส.จ.อ.โพธาราม นายมนตรี ใช่รุ่งเรือง ส.จ.อ.จอมบึง และนายนิธิวรรธน์ ศิริจรรยาพงศ์ ส.จ.อ.บ้านคา พร้อมชาวบ้านจังหวัดราชบุรี ในพื้นที่อำเภอต่างๆ กว่า 200 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดราชบุรี เพื่อแสดงการคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าหินกอง ต.หินกอง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี
พร้อมทั้งเขียนป้ายแสดงความไม่เห็นด้วย และเตรียมยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อ ผวจ.ราชบุรี ส่งถึงนายกรัฐมนตรี โดยมีประเด็นความเดือดร้อน คือ ผลกระทบจากโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะพิษต่อสุขภาพ ประชาชนไม่ต้องการเศษเงินที่เป็นความช่วยเหลือจากโรงไฟฟ้า และการช่วยเหลือที่ผ่านมาเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึงทุกอำเภอทุกตำบล โรงไฟฟ้าในจังหวัดราชบุรีมีจำนวนมากเกินพอแล้ว ไม่ต้องการโรงไฟฟ้าขยะอีก ขอให้ภาครัฐเปิดเผยโครงการโดยละเอียด อย่าปิดหูปิดตาประชาชน ประชาชนไม่ต้องการท่อก๊าซเพิ่มจากโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ขอให้หยุดสร้างโรงไฟฟ้าในจังหวัดราชบุรีโดยเด็ดขาด
ต่อมา นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผวจ.ราชบุรี ได้เชิญตัวแทนเพื่อเข้าไปพูดคุยที่ห้องประชุม เนื่องจากผู้ว่าฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดราชบุรี ก่อนจะลงไปพบกับประชาชนที่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดราชบุรี พร้อมกับหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และนายอำเภอทุกอำเภอ เพื่อรับหนังสือข้อเรียกร้องจากกลุ่ม และรับว่าจะนำเสนอหนังสือให้นายกรัฐมนตรี ผ่านสำนักนายกรัฐมนตรีโดยทันที พร้อมทั้งเตรียมประสานตัวแทนบริษัทที่ก่อสร้าง โรงไฟฟ้า และชาวบ้านมาเจรจาต่อรองพูดคุยกันเพื่อหาแนวทาง โดยมีผู้ว่าฯ เป็นตัวกลางในการประสาน สร้างความพอใจให้ประชาชน และผู้นำที่มาร่วมคัดค้านการก่อสร้างก่อนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาต่อไป
นายไชยา เอื่ยมสะอาด กล่าวว่า วันนี้ประชาชนชาวราชบุรี มีความเดือดร้อนเพราะโรงไฟฟ้าสร้างความเดือดร้อน ในปัจจุบันได้มีการต่อท่อก๊าซมาจากพม่า เข้ามา อ.จอมบึง อ.โพธาราม และ อ.เมือง ซึ่งชาวบ้านไม่พอใจเนื่องจากเป็นการทำลายธรรมชาติ และโรงไฟฟ้าได้สร้างมลพิษให้ชาวราชบุรี ซึ่งชาวราชบุรีไม่ได้รับประโยชน์ และไม่ให้ความสำคัญกับคนราชบุรี ไม่มีการประชาคมหรือประชาพิจารณ์ จนประชาชนต้องมาร้องเรียนถึงผู้ว่าฯ ให้ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อหาทางแก้ไขและเยียวยาให้ชาวราชบุรีทั้งจังหวัด ไม่ใช่แค่จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งถ้าตกลงกันไม่ได้จะไม่มีการให้ก่อสร้างต่อ
