บุรีรัมย์ - ชายวัย 52 ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ผวาไม่ปลอดภัยหลังเดือนที่แล้วถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ดักปล้นชิงเงิน 3 พันบาทหนีลอยนวล ล่าสุดขี่ จยย.ไปเลี้ยงวัวจอดไว้ข้างคลองส่งน้ำโดนคนร้ายขโมยหายไปอีก เผยมี จยย.และเครื่องจักรกลการเกษตรของชาวบ้านหายไปหลายคน วอน ตร.เร่งติดตามคนร้ายปล่อยไว้ย่ามใจก่อเหตุไม่หยุด
วันนี้ (18 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านในตำบลละหานทราย อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ว่ามีคนร้ายอาละวาดขโมยรถจักรยานยนต์ และเครื่องจักรกลการเกษตรหายไปหลายคัน ล่าสุดเป็นรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่จอดไว้ข้างคลองส่งน้ำ เพื่อไปดูวัวที่ปล่อยกินหญ้าพอจะกลับมาเอารถโดนขโมยหายไปแล้ว ทั้งนี้ยังมีรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ รพ.ซึ่งจอดไว้บริเวณลานจอดรถก็ถูกขโมยหายไปในวันเดียวกันด้วย จึงได้ลงพื้นที่ไปสอบถามข้อมูลตามที่ได้รับร้องเรียน
นายสำเนียง จุลวงษ์ อายุ 52 ปี หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกขโมยรถจักรยานยนต์ ได้พาลงพื้นที่ไปชี้จุดที่จอดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda Wave สีน้ำเงินเอาไว้ก่อนจะถูกคนร้ายลักขโมยหายไป พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ (17 ต.ค. 65) ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ตนขี่รถจักรยานยนต์ไปที่บริเวณคลองส่งน้ำใกล้หมู่บ้านบ้านน้อยลำคลอง ก็จอดไว้ริมคลองแล้วเดินไปดูวัวที่ปล่อยกินหญ้าไว้ พอถึงเวลาจะกลับบ้านช่วงเย็นก็ไม่พบรถจักรยานยนต์ที่จอดเอาไว้แล้ว ไปถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงก็บอกว่าไม่เจอจึงมั่นใจว่ารถจักรยานยนต์ของตนถูกคนร้ายขโมยไปอย่างแน่นอน จึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ละหานทราย
นายสำเนียงบอกว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมีสภาพกลางเก่ากลางใหม่ ก็จะเอาไว้ขี่ไปเลี้ยงวัว ส่งลูกหลานไปโรงเรียน และขี่ไปทำธุระ พอรถหายก็เดือดร้อนเพราะกว่าจะผ่อนค่างวดหมดก็ยากลำบาก อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุลักขโมยรถมาดำเนินคดี และนำรถมาคืน ที่สำคัญตอนนี้ตนรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะเมื่อเดือนที่แล้วขณะที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ไปดูน้ำที่นาใกล้กับคลองส่งน้ำท้ายหมู่บ้านตอนช่วงหัวค่ำ มีวัยรุ่น 3 คนยืนอยู่กลางถนน ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรก็ขี่ผ่านไปตามปกติ แต่ช่วงที่ขี่ผ่านมีวัยรุ่นอีก 2 คนเดินออกมาจากพงหญ้า รวมเป็น 5 คน ยืนดักหน้าหลัง เข้ามาล็อกคอแล้วค้นหาของมีค่าในตัว ซึ่งตอนนั้นตนมีเงินในกระเป๋าเสื้อ 3,000 บาท กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็ล้วงเอาเงินแล้วหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุไปแจ้งความตำรวจ ซึ่งตำรวจลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุและถ่ายรูปไว้ พอดูจุดเกิดเหตุเสร็จตำรวจบอกว่ามันไม่พบหลักฐานอะไร และตนเห็นว่าไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายอะไร จึงไม่อยากยุ่งยาก จึงไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ แต่พอมาครั้งนี้มาถูกขโมย จยย.อีกในรอบแค่เดือนเดียว จึงตัดสินใจแจ้งความ ซึ่งตอนนี้ก็รู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะนอกจากจะถูกปล้นและขโมย จยย.แล้ว ยังมีรถ จยย.และเครื่องจักรกลการเกษตรของชาวบ้านที่ถูกลักขโมยอีกหลายคน อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพราะหากปล่อยไว้ก็จะย่ามใจก่อเหตุไปเรื่อยๆ
จากนั้นสอบถามข้อมูลที่ สภ.ละหานทราย ทราบว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมาผู้เสียหายได้แจ้งว่ามีเหตุถูกคนร้ายดักปล้นจริง แต่พอลงพื้นที่ตรวจสอบไม่พบหลักฐานอะไร และเจ้าตัวก็ไม่ได้ถูกทำร้าย ผู้เสียหายจึงไม่ประสงค์จะแจ้งความร้องทุกข์อะไร ส่วนกรณีขโมยจักรยานมีการแจ้งความไว้จริง ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาข้อมูลเบาะแสเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี