xs
xsm
sm
md
lg

ส่งต่อเจตนารมณ์รุ่นสู่รุ่น! ชาวสะเอียบสืบทอดพิธีบวชป่าดงสักงาม ตีกันนักการเมืองปลุกผีแก่งเสือเต้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพร่ - ชาวสะเอียบนำเครือข่ายองค์กรเอกชนทั้งใน-ต่างประเทศ ร่วมสืบชะตาบวชป่าดงสักงาม อช.แม่ยม สานเจตนารมณ์ป้องผืนป่า-ตีกันนักการเมืองปลุกผีแก่งเสือเต้นจากรุ่นสู่รุ่น


วันนี้ (9 ต.ค. 65) นายชุม สะเอียบคง นายก อบต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ พร้อมเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือภาคีองค์กรพัฒนาเอกชนจากประเทศเพื่อนบ้าน เครือข่ายสมัชชาคนจน นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานมูลนิธิเพื่อการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการประเทศไทย นิมนต์พระสงฆ์ร่วมจัดพิธีสืบชะตา-บวชป่าดงสักงาม ภายในอุทยานแห่งชาติแม่ยม ซึ่งเป็นประเพณีของชาวสะเอียบกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

การจัดพิธีสืบชะตาป่าไม้ "ดงสักงาม" ในอุทยานแห่งชาติแม่ยมมีแนวทางสำคัญในการสร้างจิตสำนึกร่วมเพื่อการหวงแหนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ชาวบ้านต่อสู้ในการต้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นมานานกว่า 30 ปี พิธีกรรมนี้ยังเป็นการปลุกจิตสำนึกของคนรุ่นใหม่ให้เห็นความสำคัญในการรักษาผืนป่าและการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งเตรียมความพร้อมรับมือระบบนโยบายการบริหารจัดการน้ำของนักการเมืองที่จะเข้าสภาในการเลือกตั้งครั้งหน้าในเร็วๆ นี้

นายชุม นายก อบต.สะเอียบ กล่าวว่า การบวชป่าสืบชะตาไม้สักบริเวณดงสักงาม อุทยานแห่งชาติแม่ยม เป็นสัญลักษณ์สำคัญในการต่อต้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการปลุกจิตสำนึกของคนรุ่นใหม่ให้สานเป้าหมายจุดยืนในรุ่นต่อๆ ไป

นายสมมิ่ง เหมืองร้อง อดีตแกนนำต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น กล่าวว่า เหตุที่ชาวบ้านต้องยึดถือประเพณีบวชป่าอย่างต่อเนื่องเพราะปัญหาการเมืองที่ยังมุ่งไปที่ผลประโยชน์ในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบริเวณนี้ และ "แก่งเสือเต้น" ยังเป็นเป้าหมายของนักการเมืองที่จะสร้างเขื่อน อีกไม่นานการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นนักการเมืองที่มีความโลภต้องการผันงบประมาณเป็นโครงการขนาดใหญ่จะพยายามฟื้นโครงการแก่งเสือเต้นมาอีกอย่างแน่นอน ชาวบ้านรู้ทันจึงยังคงต้องดำเนินการต่อต้านการสร้างเขื่อนต่อไป

นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานมูลนิธิเพื่อการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการประเทศไทย กล่าวว่าได้ร่วมต่อสู้กับชาวบ้านสะเอียบมาเป็นเวลานานนอกจากนั้นยังให้ความสำคัญในการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ สร้างการมีส่วนร่วมจากประชาชนนำไปสู่การพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

ที่ผ่านมาพบว่าการบริหารจัดการน้ำเน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐานในการสร้างประตูระบายน้ำ เขื่อน ทำนบกั้นน้ำ ที่ต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากและมากขึ้นทุกปี แต่จากสภาพอุทกภัยในปีนี้พบว่าโครงสร้างพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาน้ำกลับกลายเป็นจุดสกัดไม่ให้น้ำเดินทางสะดวก กลายเป็นปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

ทางมูลนิธิฯ ยังพบว่าการบริหารทรัพยากรน้ำขึ้นอยู่กับนักการเมืองผู้ที่เข้ามาบริหารทรัพยากรน้ำคือ ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ใช้งบประมาณจำนวนมากเน้นไปที่การก่อสร้างและการจัดหา โดยไม่มองกลไกสำคัญคือ คนในพื้นที่และการจัดการน้ำอย่างสมดุล ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง

และเมื่อพูดถึงปัญหาเหล่านี้ก็จะมีการเพิ่มงบประมาณขึ้นทุกปี สิ่งเหล่านี้มาจากนโยบายของนักการเมืองที่จะเข้าสู่สภา ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งต่อไปประชาชนคงต้องติดตามและต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เนื่องจากผู้บริหารที่คิดเรื่องงบประมาณมากกว่าการจัดการน้ำอย่างสมดุล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ถือเป็นพื้นที่ต้นแบบในการสร้างการมีส่วนร่วมบริหารจัดการน้ำมีโครงการที่เกิดขึ้นจากประชาชนมากมาย อาทิ โครงการสะเอียบโมเดล แต่โครงการที่มีกระบวนการมีส่วนร่วมเหล่านี้รัฐบาลหรือนักการเมืองในยุคต่างๆ ไม่ให้ความสำคัญ แต่กลับเน้นไปที่โครงการขนาดใหญ่เพื่อผันงบประมาณลงทุนในปริมาณที่สูงแต่ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ

ซึ่งกรณีชาวสะเอียบและองค์กรพัฒนาเอกชนร่วมกันสานต่อประเพณีการสืบชะตาป่าไม้ในอุทยานแห่งชาติแม่ยมครั้งนี้ก็เพื่อการสะท้อนภาพให้เห็นถึงกระบวนการการมีส่วนร่วมประชาชนที่รัฐมองไม่เห็น


กำลังโหลดความคิดเห็น