บุรีรัมย์ - ชาวบ้าน-ผู้สูงอายุ 4 ตำบล อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ บุกแจ้งความเอาผิดสมาคมทหารกองหนุนสังกัดสภาองค์กรทหารกองหนุนพื้นที่ ทภ.2 เบี้ยวเงินสงเคราะห์ศพ ตั้งแต่ 2-4 ปียังไม่ได้สักบาท ต้องกู้เงินนอกระบบจัดงานศพเดือดร้อนไม่มีเงินจ่ายดอก ล่าสุดปิด สนง.ที่ตั้งสมาคมฯ เผ่นหนีแล้ว ขณะกองทัพภาคที่ 2 สั่งตรวจสอบทหารเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือแอบอ้างชื่อให้ ปชช.หลงเชื่อ
วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้าน ผู้สูงอายุ ทั้งที่เป็นสมาชิกและทายาทผู้รับผลประโยชน์จาก 4 ตำบล คือ ตำบลห้วยราชา สามแวง โคกเหล็ก และตำบลสนวน ในอำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ เกือบ 30 คน ได้นำเอกสารหลักฐานใบเสร็จการจ่ายเงินสงเคราะห์ศพล่วงหน้ารายเดือน ใบมรณบัตรของญาติที่เสียชีวิต เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้ดำเนินคดีต่อสมาคมทหารกองหนุนสังกัดสภาองค์กรทหารกองหนุนพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2)
หลังเบี้ยวเงินสินไหมทดแทนหรือเงินสงเคราะห์ศพแก่ทายาทของสมาชิกที่เสียชีวิตรายละ 75,000 บาท เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 2-4 ปีที่เสียชีวิตไปแล้ว ยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียวไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่ทายาทต้องไปกู้ยืมเงินทั้งในและนอกระบบมาเป็นค่าทำศพและทำบุญให้กับผู้เสียชีวิต ทั้งที่ตั้งใจว่าจะนำเงินสงเคราะห์ศพที่ทำไว้กับทางสมาคมทหารกองหนุนฯ มาจัดงานศพเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว แต่พอเสียชีวิตนอกจากจะไม่ได้เงินสงเคราะห์ศพตามเงื่อนไขแล้ว ยังต้องเป็นหนี้ที่ไปกู้ยืมมาจัดงานศพอีก ตอนนี้เดือดร้อนมากไม่มีเงินไปจ่ายดอกเบี้ย จึงได้พากันมาแจ้งความให้ดำเนินการต่อทางสมาคมทหารกองหนุนดังกล่าว เพื่ออายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องมาคืนชาวบ้าน เชื่อมีเจตนาโกง
นางบุญญาพร ตระกูลรัมย์ พร้อมด้วยนางภาวินี หอมเนียม และนายทัศน์ มุ่งงาม ตัวแทนชาวบ้านที่มาแจ้งความ บอกว่า ตอนนี้เดือดร้อนมากเพราะไม่มีเงินไปใช้หนี้ญาติพี่น้องและนอกระบบที่ไปกู้ยืมมาเป็นค่าจัดงานศพ ทั้งที่หวังว่าจะได้เงินสงเคราะห์ศพจากทางสมาคมฯ ไปเป็นค่าจัดการศพเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว แต่กลับเป็นหนี้เพิ่มอีก ก่อนหน้านี้ก็เคยไปร้องศูนย์ดำรงธรรมแต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แถมล่าสุดไปติดตามที่สำนักงานที่ตั้งสมาคมฯ ก็ปิดทำการไปแล้ว จึงได้พากันมาแจ้งความตำรวจเพื่อให้ช่วยติดตามนายกสมาคมฯ และผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี และนำเงินสงเคราะห์ศพมาจ่ายให้กับสมาชิกที่เสียชีวิตไปแล้วด้วย
ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นว่ามีทหารในสังกัดเข้าเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือแค่แอบอ้างชื่อให้ประชาชนหลงเชื่อเท่านั้น ซึ่งล่าสุดพบว่าที่ตั้งสำนักงานสมาคมฯ ซึ่งอยู่ถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย อ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ปิดทำการไปแล้ว คาดว่าทั้งนายกสมาคมฯ และผู้เกี่ยวข้องได้หลบหนีไปแล้ว ซึ่งคาดว่ามีชาวบ้านในหลายอำเภอหลายร้อยคน ที่เป็นสมาชิกของสมาคมทหารกองหนุนดังกล่าว และคนที่เสียชีวิตถูกเบี้ยวเงินก็น่าจะหลายล้านบาท
หลังจากรับแจ้งความพนักงานสอบสวนก็จะได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายแต่ละคน และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเรียกตัวแทนสมาคมมาสอบปากคำ แต่หากไม่มาก็ต้องออกหมายเรียกและหมายจับตามกระบวนการขั้นตอนต่อไป
