เชียงใหม่ – แม่น้ำปิงเชียงใหม่แนวโน้มทรงตัวและลดระดับลงต่อเนื่อง แต่หลายพื้นที่และชุมชนในเขตเมืองยังจมน้ำ ทั้งย่านหนองหอย ช้างคลาน และเจริญประเทศ โดย จนท.ระดมความช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยไม่ขาดสาย ด้านไนท์บาซาร์น้ำแห้งแล้ว ไม่เสียหาย
ช่วงค่ำวันนี้(4 ต.ค.65) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในเขตตัวเมืองเชียงใหม่เนื่องจากน้ำในแม่น้ำปิงเอ่อล้นตลิ่งว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. ระดับน้ำในแม่น้ำปิง ที่สถานีตรวจวัด P.1 สะพานนวรัฐ อยู่ที่ 4.41 เมตร ซึ่งยังคงสูงกว่าระดับวิกฤติที่อยู่ที่ 3.7 เมตร อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำในแม่น้ำปิงล้นตลิ่งตั้งแต่เมื่อวานนี้ยังคงถูกน้ำท่วมในระดับสูง โดยเฉพาะที่ชุมชนหนองหอยบริเวณสี่แยกหนองหอย น้ำท่วมสูงกว่าหนึ่งเมตร รถเล็ก รถใหญ่ไม่สามารถผ่านได้ มีเพียงรถกระบะยกสูงเท่านั้น และต่อเนื่องมาถึงถนนเชียงใหม่- ลำพูน ยังคงถูกน้ำท่วมสูงเป็นจุดๆ ระดับน้ำประมาณ 50-80 เซนติเมตร ชาวบ้านที่อยู่ด้านหลังตลาดหนองหอยถูกน้ำไหลเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้างระดับน้ำสูงถึงเอว
ส่วนที่ถนนเจริญประเทศ ตั้งแต่หน้าวัดชัยมงคลจนถึงโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยแผนกประถม ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำปิง ยังมีน้ำท่วมขังในระดับสูง ระดับน้ำประมาณ 40-80 เซนติเมตร จุดที่ลุ่มต่ำมากกว่า 1 เมตร มีนักท่องเที่ยวติดค้างอยู่ในที่พักไม่สามารถเดินทางออกไปสนามบินได้เพราะไม่มีรถเข้ามารับ อย่างไรก็ตามบริเวณย่านเศรษฐกิจอย่างไนท์บาซาร์ ตลาดอนุสาร ระดับน้ำที่ท่วมสูงบริเวณถนนเมื่อคืนนี้รถลงกับสู่ภาวะปกติและที่ไม่ได้สร้างความเสียหายแก่พื้นที่ขายของที่อยู่ชั้นใต้ดินเนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าเอากระสอบทรายมาวางปิดกั้นทางไหลของน้ำ และมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้
ขณะที่ตลอดทั้งวันนี้ มณฑลทหารบกที่ 33 ส่งกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน พร้อมรถบรรทุกขนาดใหญ่ของหน่วย ลงพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ในชุมชนต่างๆ ที่ถูกมวลน้ำในแม่น้ำปิงเอ่อล้นเข้าท่วมในระดับสูง ตลอดทั้งวันอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่บริเวณถนนเจริญประเทศ, ถนนช้างคลาน และชุมชนหัวฝาย หน้าโรงพยาบาลแม่และเด็ก ช่วยรับ-ส่งประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางออกไปนอกบ้าน เพราะระดับท่วมสูงประมาณ 30 – 80 เซนติเมตร ในบางจุดในที่ลุ่มต่ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ทั้งรถเล็กและใหญ่ไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งชาวบ้านต่างรู้สึกดีใจ เพราะหลายคนยังต้องเดินทางออกไปทำงาน ไปหาหมอ รวมทั้งไปซื้อหาอาหารมาเก็บสำรองไว้ ขณะเดียวกันกำลังพลยังได้ช่วยขนย้ายสิ่งของ ตลอดจนสัตว์เลี้ยง หนีน้ำไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยขนขึ้นรถรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่มณฑลทหารบกที่ 33 จัดเตรียมไว้ ออกมาด้านนอกที่ไม่ถูกน้ำท่วม ก่อนให้ญาติมารับต่อไป
