ชัยนาท - เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำเกือบ 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้น้ำท่วม อ.สรรพยา ขยายวงกว้าง ชาวบ้านบอกน้ำมาเร็ว ไม่ถึง 2 ชั่วโมงพายเรือได้แล้ว ขณะที่ กอนช.ประกาศเฝ้าระวังน้ำท้ายเขื่อนจะสูงขึ้นอีก 60 ซม.
วันนี้ (1 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนนี้เวลา 24.00 น.จนถึงเช้าวันนี้ เวลา 06.00 น. เขื่อนเจ้าพระยา ได้เพิ่มระบายน้ำจาก 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,586 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท สูงขึ้นจากเดิม 22 เซนติเมตร และส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.สรรพยา ขยายวงกว้างและท่วมสูงขึ้น ชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำ อพยพครอบครัวขึ้นไปอาศัยอยู่ริมถนนคลองมหาราช เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องใช้เรือในการสัญจรแล้ว
นางประเทือง อ่อนท้วม ชาวบ้าน ม.5 ต.หาดอาษา อ.สรรพยา บอกว่า ชาวบ้านต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำมาเร็วมาก ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน รวมทั้งจะเสริมกระสอบทรายกั้นน้ำในหมู่บ้านให้สูงขึ้น ก็ไม่ทันด้วย เพราะน้ำขึ้นทุกๆ ชั่วโมง น้ำเข้าบ้านมาตอน 4 ทุ่ม พอถึงเที่ยงคืนใช้เรือพายได้แล้ว ทุกคนจึงถอดใจ ต้องปล่อยให้น้ำล้นกระสอบทรายเข้าท่วมหมู่บ้าน แล้วขนของหนีน้ำออกไปอาศัยอยู่ริมถนน
ขณะที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ออกประกาศเรื่องเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 45/2565 โดยคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ อยู่ในเกณฑ์ 2,600-2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพิ่มขึ้นอยู่ในอัตรา 2,600-2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงวันที่ 1-7 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยามีระดับเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 30-60 เซนติเมตร บริเวณชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อ.อินทร์บุรี อ.เมืองสิงห์บุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อ.ป่าโมก อ.ไชโย คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล อ.เสนา อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ
และคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. ถึง 6 ต.ค. ประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนมีแนวโน้มเกินความจุที่ระดับเก็บกักสูงสุด จึงจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำในแบบขั้นบันได ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 และจะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก ในอัตราไม่เกิน 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
จึงขอให้เฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่เสี่ยงบริเวณริมแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่เขื่อนพระรามหก อ.ท่าเรือ ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 1.20-1.50 เมตร และจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มสูงจากปัจจุบัน 25-50 เซนติเมตร จึงขอให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์