พระนครศรีอยุธยา - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงพื้นที่แถลงจับกุมแก๊งซีวิค ทีมยิงเสี่ยเบนซ์ หนีกบดานชุมพร ปมฟ้องหุ้นส่วนธุรกิจร้านอาหารใน จ.ปทุมธานี ซึ่งถูกฉ้อโกงเงินไปกว่า 30 ล้านบาท
จากเหตุการณ์อุกอาจ 2 คนร้ายขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์ ประกบยิงถล่ม นายตรีภพ ภูมี อายุ 55 ปี เสี่ยเจ้าของรีสอร์ต และร้านอาหารหลายแห่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ปทุมธานี ได้รับบาดเจ็บ ขณะขับรถเบนซ์ บนถนนสายเอเชียขาออก ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังกลับจากไปขึ้นศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี คดีที่ยื่นฟ้องหุ้นส่วนร้านอาหารฉ้อโกงทรัพย์ เจ้าตัวยังแข็งใจขับรถไป รพ.ราชธานี ให้แพทย์ช่วยชีวิตไว้ได้ เบื้องต้น ตำรวจมุ่งชนวนเหตุจากเรื่องคดีความที่ฟ้องร้องหุ้นส่วนธุรกิจโกงเงินไปกว่า 30 ล้านบาท
ล่าสุด วันนี้ (26 ก.ย.) ที่ด้านหน้า ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.พัทธนันท์ ทรงสมถวิล ผกก.สภ.บางปะอิน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้มีการแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย เป็นชาย 3 หญิง 1 ที่ก่อเหตุยิงเสี่ยเบนซ์ได้รับบาดเจ็บ พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุน และรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ ใช้สเปรย์สีดำพ่นทับ โดยใช้ทะเบียนปลอม หมายเลขทะเบียน ชผ 1707 กรุงเทพมหานคร และรถโตโยต้า สีขาวหมายเลขทะเบียน 2 ขห 284 กรุงเทพมหานคร รวมถึงเสื้อแขนยาวสีดำ โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ที่ใช้ในการก่อเหตุพร้อมตรวจยึดเป็นของกลางนำมาแถลง
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า หลังจากมีการก่อเหตุยิงเสี่ยเบนซ์ ทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งออกติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุเนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ ก่อเหตุแบบอุกอาจในเวลากลางวันโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ได้เรียกชุดสืบสวนเข้าประชุมเร่งด่วนจึงทราบตัวคนร้าย หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน รวบรวมพยานหลักฐานไปยื่นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาคดีนี้ 4 คน ประกอบด้วย นายดนัย อ๋องย่อง อายุ 50 ปี ผู้จ้างวาน อยู่บ้านเลขที่ 99/79 หมู่ 3 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี นายเทียนชัย รัตนอำพร อายุ 28 ปี คนขับรถเก๋งพามือปืนไปก่อเหตุ อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 7 ต.ส้มป่อย อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ นายเอกพล หรือตี่ ฤทธิกุล อายุ 32 ปี มือปืน อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 3 ต.พะแสง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี และ น.ส.ทิพวรรณ์ หรือบี มานก อายุ 31 ปี ภรรยาของนายเอกพล อยู่บ้านเลขที่ 227 หมู่ 11 ต.วังทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ
ต่อมา ชุดสืบสวนกก.สส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา สืบสวนแกะรอยทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน หลบหนีไปกบดานอยู่ในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร จึงประสานไปยัง กก.สส.ภ.จ.ชุมพร และ บก.สส.ภ.8 สืบสวนหาเบาะแสจนกระทั่งได้ข้อมูลที่แน่ชัด พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 นำกำลังชุดสืบสวนเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน โดยนายดนัย อ๋องย่อง ผู้จ้างวาน และนายเทียนชัย รัตนอำพร คนขับรถก่อเหตุถูกจับกุมที่ไรเดอร์รีสอร์ต ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 23 ก.ย. เวลาประมาณ 15.00 น.
ส่วนนายเอกพล หรือตี่ ฤทธิกุล มือปืน และ น.ส.ทิพวรรณ์ หรือบี มานก ภรรยา ถูกจับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 232 หมู่ 7 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 24 ก.ย.เวลาประมาณ 06.00 น. พร้อมตรวจยึดปืน 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุ และรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ผู้ต้องหาใช้สีสเปรย์สีดำพ่นทับสีรถเดิมไปครึ่งคันเพื่อหวังตบตาอำพราง จอดอยู่ในโรงรถภายในบริเวณบ้าน
ทั้งนี้ ตามแนวทางการสืบสวนทราบว่า ปมเหตุมาจากเรื่องคดีความที่ผู้เสียหายฟ้องร้องหุ้นส่วนธุรกิจร้านอาหารใน จ.ปทุมธานี ฉ้อโกงเงินไปกว่า 30 ล้านบาท และยังแจ้งความข้อหาบุกรุกอีกคดี ทำให้คู่กรณีเกิดความโกรธแค้น ส่งมือปืนไปประกบยิงถล่ม แต่กระสุนไม่เข้าจุดสำคัญทำให้เหยื่อรอดชีวิตมาได้ สำหรับนายเอกพล มือปืนที่ก่อเหตุยอมรับว่าทำงานให้ผู้จ้างวานเพื่อตอบแทนบุญคุณ ไม่ได้รับเงินค่าจ้างแต่อย่างใด
โดยผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย ยอมรับสารภาพว่าได้ร่วมกันวางแผนและทำหน้าที่แต่ละคน ซึ่งแจ้งข้อกล้าวหาคือ นายดนัย อ๋องย่อง หรือนายแต๊ก อายุ 50 ปี ในความผิดฐานเป็นผู้ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.นายเอกพล หรือตี่ ฤทธิกุล อายุ 32 ปี ในความผิดร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่รับอนุญาต ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ 3.นายเทียนชัย รัตนอำพร หรือเบียร์ อายุ 28 ปี ในความผิดร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่อนุญาต ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ 4.น.ส.ทิพวรรณ์ หรือบี มานก อายุ 31 ปี ในความผิดร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมการพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่อนุญาต
ชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพโดยให้การสอดคล้องกัน ว่า มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้เกิดจากผู้จ้างวานไม่พอใจที่ถูกผู้เสียหายฟ้องร้องดำเนินคดีกับตนเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ในร้านอาหารซึ่งเป็นหุ้นส่วนกัน จึงเป็นสาเหตุให้นายตี๋ และนายเบียร์ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยประสงค์ถึงชีวิต โดยนายตี๋ ให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายจริง โดยมีนายเบียร์ เป็นผู้ขับรถยนต์ ส่วน น.ส.บี นั่งอยู่ที่เบาะด้านหลังภายในรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุยิงผู้เสียหาย
หลังจากแถลงข่าวเสร็จจึงนำตัว นายเอกพลหรือตี๋ มือปืน พร้อมด้วย นายเทียนชัย และ น.ส.ทิพวรรณ์ และรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณถนนสายเอเชียขาขึ้น หลักกิโลเมตรที่ 15
ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่ามกลางสายฝน
จากนั้นนำขึ้นรถตู้ตำรวจส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อฟ้อง ก่อนจะนำตัวทั้งหมดไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดมีการวางแผนและเตรียมการมาก่อนที่จะลงมือ
ด้านนายตรีภพ ภูมี เจ้าของรีสอร์ตและธุรกิจร้านอาหาร ผู้เสียหายได้เดินทางนำกระเช้าดอกไม้มาขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังรู้สึกไม่ปลอดภัยกับชีวิต เนื่องจากแก๊งของผู้ต้องหายังมีการขู่อาฆาต ตนเองยังอยู่อย่างหวาดกลัว แต่ดีใจที่สามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว