สลด! เก๋งฝ่าสายฝนเสียหลักชนการ์ดเลนพลิกคว่ำเพลิงลุกไหม้วอดทั้งคัน

พระนครศรีอยุธยา - สลด! เก๋งฝ่าสายฝนเสียหลักชนการ์ดเลนพลิกคว่ำเพลิงลุกไหม้วอดทั้งคัน พบร่างคนขับเป็นหญิงถูกไฟคลอกดับคาที่ บนถนนกาญจนาภิเษก หรือทางหลวงหมายเลข 9 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 77 ขาเข้ามุ่งหน้าไปบางบัวทอง พื้นที่หมู่ 3 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน

เวลา 01.30 น.วันนี้ (25 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักพลิกคว่ำบนถนนกาญจนาภิเษก หรือทางหลวงหมายเลข 9 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 77 ขาเข้ามุ่งหน้าไปบางบัวทอง พื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ และรถดับเพลิงเทศบาลตำบลเชียงรากน้อย 1 คัน

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งพลิกคว่ำตะแคงข้างอยู่บนถนนคู่ขนาน ทางหลวงหมายเลข 9 สภาพเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงทั้งคัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมรถดับเพลิงเทศบาลตำบลเชียงรากน้อย ใช้เวลาประมาณ 30 นาที สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบพบว่าเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน 6 กล 6860 กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบภายในรถยนต์เก๋งพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิง สภาพถูกเพลิงไหม้เกรียมทั้งร่าง เจ้าหน้าที่จึงนำร่างออกมาตรวจสอบ พบที่เล็บเท้าทาสีฟ้า จากนั้นนำร่างส่งชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลบางปะอิน

จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบมีฝนตกตลอดเวลา ประกอบกับเส้นทางดังกล่าวมีการปรับปรุงซ่อมแซมและมืด พบการ์ดเลนมีรอยเฉี่ยวชน เศษชิ้นส่วนรถกระจัดกระจาย เบื้องต้น คาดว่าผู้เสียชีวิตมาถึงจุดเกิดเหตุ และมีฝนตก ประกอบกับถนนอยู่ในช่วงปรับปรุงทำให้แสงสว่างไม่เพียงพอ จึงพุ่งชนการ์ดเลนก่อนเสียหลักพลิกคว่ำจนรถเกิดเพลิงลุกไหม้และเสียชีวิต

นายวรพจน์ แก้วสุ่น อายุ 31 ปี อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ กล่าวว่า รับแจ้งมีรถพลิกคว่ำ จึงรุดเดินทางมาตรวจสอบ พบรถตะแคงอยู่และมีเพลิงลุกกไหม้ จึงประสานรถดับเพลิงเข้าทำการดับไฟ พอควบคุมเพลิงได้พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย คาดว่าช่วงเกิดเหตุมีฝนตก ประกอบกับมีการปรับปรุงถนน ทำให้รถเสียหลักชนการ์ดเลนพลิกคว่ำ และเกิดเพลิงลุกไหม้ทำให้ผู้ขับเสียชีวิต

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ นำร่างส่งชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลบางปะอิน และจะตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถที่ถูกเพลิงลุกไหม้ ว่าชื่อเจ้าของรถเป็นใครเพื่อติดตามญาติ และรับร่างผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป