หนองคาย - หนองคาย-เวียงจันทน์ลงนามความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนไทย-ลาว มีมติสร้างพื้นที่ชายแดนด้วยมิตรภาพและสันติภาพ เดินหน้าพัฒนาคู่ขนาน ทั้งยังเห็นชอบให้เพิ่มวันทำการและเวลาเปิด-ปิดจุดผ่อนปรนการค้า ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์กับจังหวัดหนองคาย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (21 ก.ย.) ที่ห้องประชุมโรงแรมรอยัลนาคารา อ.เมืองหนองคาย ได้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนไทย-ลาว จังหวัดหนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์ ครั้งที่ 13 โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และนายอาดสะพังทอง สีพันดอน เจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ นำคณะทั้งสองประเทศประชุมร่วมกัน พร้อมทั้งลงนามในบันทึกการประชุมฯ
นายอาดสะพังทอง สีพันดอน เจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้การประสานงานความร่วมมือร่วมกันระหว่างสองประเทศในช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาบ้าง เมื่อเห็นชอบในการหารือร่วมกันในครั้งนี้แล้ว ทางลาวจะนำรายละเอียดทั้งหมดนี้ไปขยายผลให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานให้เกิดเป็นรูปธรรม เชื่อว่าความร่วมมือสองประเทศไทย-ลาว จะดีขึ้น ขอให้ช่วยกันรักษาชายแดนให้เป็นชายแดนที่มีมิตรภาพ สันติภาพ เป็นภารกิจที่มีศักดิ์ศรีและศักดิ์สิทธิ์ของทั้งสองท้องถิ่น ขอให้หนองคาย และนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นเมืองคู่ขนานที่พัฒนาไปด้วยกัน
ด้านนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า การประชุมในครั้งที่ 12 ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจอันดีที่มีให้กันต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและเสริมสร้างความมั่นคงตามชายแดนระหว่างจังหวัดหนองคายกับนครหลวงเวียงจันทน์ เช่น ความร่วมมือด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน สาธารณสุข เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การเกษตร และการคมนาคมขนส่ง ทำให้บริเวณชายแดนมีความสงบเรียบร้อยดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบมีประเด็นปัญหาบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงไทย-ลาว ให้ทั้งสองฝ่ายสกัดกั้นและปราบปรามการเคลื่อนไหวของบุคคลที่เป็นภัยตามพื้นที่ของตนอย่างเคร่งครัด และให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง ชายแดนทั้งสองประเทศจะต้องเป็นพื้นที่ปลอดเสียงจากอาวุธและระเบิด เป็นตัวอย่างให้แก่จังหวัดและแขวงที่มีชายแดนติดต่อกัน
หากจะมีการจุดพลุ บั้งไฟหรือกิจกรรมที่ส่งเสียงดังต้องแจ้งให้แต่ละฝ่ายทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน, การปฏิบัติงานของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงจะดูแลพลเมืองที่ประกอบอาชีพสุจริตของตน ตลอดจนการป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติด รวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหรือมีความจำเป็นอื่นๆ ตามหลักมนุษยธรรม, ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้มีการเพิ่มวันทำการและเวลาเปิด-ปิดจุดผ่อนปรนการค้า ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์กับจังหวัดหนองคาย และเห็นชอบในหลักการเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าเป็นจุดผ่านแดนถาวรและด่านประเพณีเป็นด่านท้องถิ่นต่อไป แต่จะดำเนินการได้จนกว่าสถานการณ์โรคระบาดจะลดน้อยลงและทั้งสองฝ่ายมีความพร้อม เป็นต้น