เลขาฯสมช. เผย ศปก.ศบค.จ่อชง ศบค.ใหญ่ เคาะถอดหน้ากาก ค่อยเป็นค่อยไปตามมาตรการสาธารณสุข ปรับThailand Pass ให้เข้าประเทศง่ายขึ้น อุบเปลี่ยนผ่านสู่โรคประจำถิ่นกันสับสน ชี้ทำตามสธ.ฟื้นฟูประเทศปลอดภัย
วันนี้ (16 มิถุนายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า ในวันเดียวกันนี้มีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เพื่อสรุปข้อเสนอตามนโยบาย ข้อสั่งการของ ศบค. ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายไว้ตั้งแต่การประชุมครั้งที่ผ่านมา และให้สอดคล้องกับแนวทางการผ่อนคลายมาตรการสังคม ชุมชน และองค์กร เป็นไปตามแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ระยะ Post-Pandemic
พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า ได้มีการประเมินสถานการณ์รอบ 10 วัน และสถานการณ์ภาพรวมที่ผ่านมา โดยจัดทำข้อเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณามาเป็นลำดับ ควบคู่กับนโยบายด้านการป้องกันการแพร่ระบาดที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการอยู่ด้วย ในวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน จะมีการเสนอประเด็นต่างๆ เข้าที่ประชุม ศบค.เกี่ยวกับการพิจารณาปรับให้มีการผ่อนคลายให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตและประกอบอาชีพได้ใกล้เคียงภาวะปกติให้มากที่สุดอย่างปลอดภัย ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และมีแผนด้านสาธารณสุขรองรับในทุกพื้นที่ เช่น การปรับพื้นที่สถานการณ์ให้เป็นพื้นที่ตามมาตรการสีเขียว (มาตรการเฝ้าระวัง) ให้มากที่สุด การผ่อนคลายการเปิดกิจการ และสถานบริการกลางคืนที่มีความเสี่ยงให้ดำเนินการได้ใกล้เคียงกับภาวะปกติให้มากที่สุดอย่างปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนที่เป็นห่วงโซ่การประกอบอาชีพด้านนี้ได้มีงานทำและมีรายได้
พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า เรื่องการสวมหน้ากาก ได้พิจารณาเสนอให้มีการผ่อนคลายให้ไม่ต้องสวมหน้ากากในสถานที่ หรือกิจกรรมบางประเภทได้โดยสมัครใจ ภายใต้ข้อแนะนำด้านสาธารณสุขอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับส่วนรวมด้วย
“นอกจากนี้ จะเสนอให้มีการปรับมาตรการเข้าออกประเทศที่เกี่ยวข้องกับระบบ Thailand Pass ให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ให้สอดคล้องกับผลการประเมินที่พบว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก และเอื้อต่อการจูงใจนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าขายตามแนวชายแดนทั้งที่เป็นจุดผ่านแดนถาวร หรือจุดผ่อนปรนทางการค้าตามแนวชายแดน รวมทั้งการท่องเที่ยวผ่านเรือสำราญขนาดเล็กและขนาดใหญ่ด้วย” พล.อ.สุพจน์กล่าว
พล.อ.สุพจน์กล่าวอีกว่า เรื่องวัคซีน กระทรวงสาธารณสุขจะเสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและมาตรการรณรงค์ให้ประชาชนได้รับวัคซีนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อให้มีความปลอดภัยและไม่เจ็บป่วยรุนแรงเมื่อได้รับเชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงแต่ละประเภทต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลเป็นห่วงมากที่สุด
“การดำเนินการตามที่กล่าวมาได้ดำเนินการให้มีความสอดคล้องกับการประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันในทุกมิติ รวมทั้งแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ระยะ Post-Pandemic หรือโรคประจำถิ่น อย่างไรก็ตาม ขอยังไม่เปิดเผยในรายละเอียดเพื่อป้องกันความสับสน และขอให้ผ่านการพิจารณาจากที่ประชุม ศบค.ก่อน” พล.อ.สุพจน์ระบุ
พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า ความสำเร็จในการเปิดประเทศ การเดินหน้าระบบเศรษฐกิจทุกระดับในประเทศ ตลอดจนการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างปลอดภัย เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างสูงสุด หากประชาชนและองค์กรทุกภาคส่วนได้ตระหนักและร่วมมือกันดำเนินชีวิต ดำเนินกิจกรรมกิจการภายใต้มาตรการและข้อแนะนำด้านสาธารณสุขก็มั่นใจได้ว่าเราจะสามารถอยู่กับโควิดได้ และเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างปลอดภัย