กาญจนบุรี - ผลพวงตรวจซ้ำรีสอร์ตหรู 100 ล้าน ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ พบ อบต.จ้างเอกชนรุกที่ป่าใหม่บนภูเขา ด้าน ศปป.4 เผยมีผู้แอบอ้างชื่อไปเอาทรัพย์สินจากผู้ประกอบการรีสอร์ต โดยอ้างว่าจะนำไปเคลียร์ให้เจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้ไปตรวจสอบรีสอร์ต แนะอย่างหลงเชื่อเด็ดขาด
หลังจากที่ น.ส.สุนันทา จำปาเงิน ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. หารือกันระหว่างตรวจรีสอร์ตริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้พบร่องรอยการบุกรุกป่าใหม่ที่อยู่บนภูเขาสูง หลังจากทราบเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบว่าพื้นที่ที่ถูกบุกรุกนั้นมีการทำถนนขึ้นไปบนภูเขา จากการตรวจสอบพบมีหมุดปักเรียงรายกันเป็นจำนวนมาก โดย พ.อ.พงษ์เพชร เปิดเผยภายหลังว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบเพื่อความชัดเจน โดยร่วมกับทาง ผอ.ป.ป.ช.กาญจนบุรี แต่ปรากฏว่าวันนี้เราตรวจพบเพิ่มอีกแห่งหนึ่งคือมีการปักหมุดโครงการรังวัดที่ดินเพื่อเก็บภาษีของ อบต.ท่ากระดาน ซึ่งภายในรีสอร์ตเราตรวจพบเช่นกัน และนอกจากนี้ พื้นที่บริเวณข้างเคียงยังพบหมุดลักษณะเดียวกันอีกจำนวนหลายหมุด และพบพื้นที่บุกรุกป่าใหม่เพิ่มอีก 1 แห่ง ด้วยการใช้เครื่องจักกลหนักทำการบุกรุก
จากการตรวจสอบพบหมุดรังวัดอยู่เต็มไปหมด จากสภาพพื้นที่พบเป็นผืนป่าแต่ถูกบุกรุกเปิดพื้นที่ป่าใหม่ ซึ่งเป็นโครงการของ อบต.ท่ากระดาน ทางเราจะต้องดำเนินการตรวจสอบว่าทำถูกต้องหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ปรากฏว่า ทาง อบต.ไม่ได้มีการขออนุญาตแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นจึงถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าไม้ แต่เราจะต้องไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง หากพบทำผิดเราจะต้องสั่งให้หยุด เพื่อป้องกันและรักษาป่าที่เหลืออยู่เอาไว้ให้ได้
จากการตรวจสอบภูเขาประมาณ 3 ลูก พบว่ามีหมุดชนิดเดียวกันอยู่เต็มไปหมด สำหรับชื่อเต็มของโครงการนั้นจะไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง แต่โครงการนี้เป็นโครงการรังวัดที่ดินทำกินเพื่อจัดเก็บภาษี ซึ่งทาง อบต.ท่ากระดานเป็นผู้จ้างให้เอกชนเข้ามาดำเนินการโดยใช้งบประมาณของทางราชการ สำหรับพื้นที่บริเวณนี้อยู่บนภูเขาริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นป่าลุ่มน้ำ 2 ที่เป็นป่าต้นน้ำที่จะต้องอนุรักษ์เอาไว้
พ.อ.พงษ์เพชร เปิดเผยว่า จากการที่ตนลงพื้นที่มาปฏิบัติการ 2 ครั้ง พบว่ามีการนำชื่อตนไปแอบอ้าง แล้วนำไปเรียกเอาทรัพย์สินจากผู้ประกอบการรีสอร์ตรายอื่น โดยอ้างว่าจะนำไปเคลียร์ให้เจ้าเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้ไปตรวจสอบรีสอร์ตของผู้ประกอบการรายอื่น ซึ่งเรื่องนี้ตนขอเรียนว่าเจ้าหน้าที่ของเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ แต่ถ้าเกิดว่ามีการนำชื่อตนไปแอบอ้างจนทำให้ได้รับความเสียหาย ตนจะแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ในเบื้องต้น ขณะนี้ผู้เสียหายที่ถูกเรียกทรัพย์สินได้ไปแจ้งความเอาไว้แล้วที่ สภ.ศรีสวัสดิ์ ซึ่งจะมีการตรวจสอบสถานประกอบการรีสอร์ตนั้นเราจะให้ความเป็นธรรมทุกแห่ง ในส่วนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนศรีนครินทร์ ที่มีการแจ้งมาว่ามีสถานประกอบการรีสอร์ตปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำของการไฟฟ้าที่มีอยู่ประมาณ 10 ราย โดยจะทยอยตรวจสอบกันไป เพราะเราไม่สามารถตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในวันเดียวได้ จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ประกอบการว่า หากใครไปแอบอ้างชื่อตนเองแล้วเรียกทรัพย์สินว่าสามารถช่วยเหลืออะไรได้ ขอเรียนว่าเจ้าหน้าที่ของเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีใครสามารถช่วยเหลือใครได้