xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมดำเนินคดีรีสอร์ตหรู มูลค่ากว่า 100 ล้าน ริมทะเลสาบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - ศปป.4 กอ.รมน. พยัคฆ์ไพร กฟผ. นำตรวจรีสอร์ตหรูริมทะเลสาบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีฯ พบพื้นที่อยู่นอกเขต น.ส.3 เตรียมดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484

วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 องค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. นายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ได้ประชุมเพื่อหาหน่วยงานรับผิดชอบในการดำเนินคดี กรณีมีกลุ่มนายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าแล้วนำไปสร้างรีสอร์ตลักษณะเรือนแพโดยผิดกฎหมาย โดยรีสอร์ตดังกล่าวตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ท้องที่หมู่ 1 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี โดยเมื่อวันที่ 27 พ.ค.65 ได้สนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ตดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง

การประชุมครั้งนี้มีนายประทีป เอกฉันท์ ผอ.ศูนย์ป่าไม้กาญจนบุรี นายปราศาสตร์ การอำนวย นายก อบต.ท่ากระดาน เจ้าหน้าที่ สปป.1 (ภาคกลาง) เจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สจป.ที่ 10 (ราชบุรี) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ศรีสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ไทรโยค เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.2 (บ้านสามหลัง) เจ้าหน้าที่ ตร.กก.5 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนศรีนครินทร์ เข้าร่วมประชุม ส่วนหน่วยงานที่ไม่เดินทางมาร่วมประชุมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ที่ดิน และเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า การประชุมใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้นทั้งหมดจึงเดินทางไปยังรีสอร์ตเพื่อขอเอกสารการครอบครองที่ดิน รวมทั้งใบอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารแบบถาวร และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาตรวจสอบ
 
สำหรับรีสอร์ตนั้นสร้างพื้นที่รับลูกค้าลักษณะคล้ายโดมขนาดใหญ่ ตั้งอยู่เชิงเขาที่มีถนนกั้นเอาไว้ เป็นบรรยากาศแบบซีวิวมองเห็นทะเลสาบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ ยังมีห้องสำหรับจัดเลี้ยงขนาดใหญ่อยู่ที่ริมอ่าง มีห้องพักสำหรับให้บริการลูกค้ายื่นลงไปกลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีฯ จำนวนกว่า 20 หลัง จากสภาพคาดว่าใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.เปิดเผยภายหลังว่า วันนี้เราได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ ซึ่งที่ดินแปลงนี้มีเอกสารสิทธิเป็น น.ส.3 และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบแนวเขตของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่มีหมุดฝังเอาไว้ แต่ปรากฏว่าเจอหมุดเพียงหมุดเดียว จากนั้นจึงทำการจับค่าพิกัดตามแนวที่ฝังหมุดเอาไว้พบว่าอีก 1 หมุด ฝังเอาไว้ใต้อาคารหลังที่ใช้สำหรับต้อนรับลูกค้า อีกหนึ่งหมุดอยู่บริเวณทางลงเขาที่ทางรีสอร์ตได้มีการปรับสภาพพื้นที่ไปแล้ว เพราะพื้นที่ทั้งหมดที่เป็นอาคาร 7 หลัง อยู่นอกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ส่วนรีสอร์ตที่เป็นเรือแพอีก จำนวน 20 หลัง อยู่นอกเขตเอกสารสิทธิ น.ส.3 เช่นกัน

เพราะฉะนั้นจึงไปทำการตรวจสอบเรื่องการขออนุญาต พบว่าในส่วนของเรือนแพ จำนวน 20 หลัง มีการขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าในการจอดแพ ในส่วนของอาคาร จำนวน 7 หลัง พบว่าไม่ได้มีการขออนุญาตก่อสร้างตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารแต่อย่างใด เมื่อไม่ได้รับอนุญาตจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยทาง อบต.ท่ากระดาน จะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในส่วนนี้ และในส่วนพื้นที่ที่อยู่นอก น.ส.3 ซึ่งจะดำเนินการคำนวณว่ามีพื้นที่เท่าไหร่ และจะทำการตรวจยึดดำเนินคดีด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้กระทำผิดจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 สำหรับพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนศรีนครินทร์ แต่ยังอยู่ภายใต้กฎหมาย พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484
 
ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 จะต้องแจ้งให้ผู้ครอบครองนำหลักฐานการเช่าหรือหลักฐานการได้มามาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำไปตรวจสอบว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ หากได้มาไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.พ.ศ.2484 จะต้องมีผู้ต้องหาขึ้นศาลเพื่อสั่งให้รื้อถอน ซึ่งจะต่างจาก พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ สำหรับพื้นที่ที่ถูกบุกรุกนั้นเจ้าหน้าที่ขอใช้เวลาตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง












กำลังโหลดความคิดเห็น