กาญจนบุรี - หัวหน้า ศปป.4 กอ.รมน.เตรียมลุยตรวจรีสอร์ตรอบขอบอ่างเขื่อนศรีนครินทร์ อีกหลายแห่ง หลังพบเข้าข่ายรุกที่ กฟผ. ส่วนรีสอร์ตหรูกว่า 100 ล้านบาท อ่วมโดนอีกหลายข้อหา
จากกรณี พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. นายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นายประทีป เอกฉันท์ ผอ.ศูนย์ป่าไม้กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ สปป.1 (ภาคกลาง) เจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สจป.ที่ 10 (ราชบุรี) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ศรีสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ไทรโยค เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.2 (บ้านสามหลัง) เจ้าหน้าที่ ตร.กก.5 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนศรีนครินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ตหรู ที่สร้างอยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ท้องที่หมู่ 1 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีกลุ่มนายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าไม้เพื่อสร้างรีสอร์ต ที่พักเรือนแพโดยผิดกฎหมาย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (24 มิ.ย.) พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพื้นที่พบรูปแบบของการบุกรุกมีทั้งการเปิดพื้นที่ป่าใหม่ และการยึดถือครอบครองออกนอกเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่บริเวณเขื่อนศรีนครินทร์ รวม 4 จุด
จุดแรก เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ครอบครองทำประโยชน์ของรีสอร์ตชื่อดังกล่าว ที่อยู่นอกพื้นที่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 เล่ม 3 หน้า 182 สารบบเล่มเลขที่ 289 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ที่เจ้าของ ไปยื่นขอก่อสร้างอาคารกับ อบต.ท่ากระดาน โดยมีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนศรีนครินทร์ เจ้าของพื้นที่เป็นผู้นำชี้แนวเขต ซึ่งเดิมหมุดเสาปูนปักแนวเป็นระยะตลอดขอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ โดยยึดถือที่ระดับ +180 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางลงมาเป็นเขตของ กฟผ.เขื่อนศรีนครินทร์
สำหรับหมุดที่อยู่ในพื้นที่ของรีสอร์ต ที่มีทั้งหมด 11 หมุด ได้ถูกสิ่งปลูกสร้างทับหายไป 10 หมุด เหลือเพียงแค่หมุดเดียว เจ้าหน้าที่ได้จับค่าพิกัดพื้นที่ยึดถือครอบครองบุกรุกออกนอกเขต น.ส.3 เข้าไปในเขตพื้นที่ของ กฟผ.เขื่อนศรีนครินทร์ คำนวณพื้นที่ได้ 6-0-50 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันจัดทำบันทึกตรวจยึดพื้นที่จำนวนดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ ดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ม.54 ม.55 ม.72ตรี ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น”
จากการตรวจสอบใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร เลขที่ 18/2564 พบว่า มีอาคารสิ่งปลูกสร้างแล้วเสร็จสภาพใหม่ จำนวน 7 หลัง แต่ไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้าง ซึ่งอาคารทั้ง 7 หลัง อยู่ในพื้นที่ตรวจยึดนอกแปลง น.ส.3 ประกอบด้วย อาคารที่พักนักท่องเที่ยวสร้างด้วยคอนกรีต หลังคามุงด้วยยางพารา ขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 14 เมตร จำนวน 5 หลัง
อาคารขนาดใหญ่สำหรับรับรองลูกค้า สร้างด้วยโครงเหล็ก หลังคามุงด้วยยางพารา กว้าง 14.6 เมตร ยาว 62 เมตร สูง 28 เมตร จำนวน 1 หลัง และอาคารซักรีดก่อด้วยอิฐหลังคามุงเมทัลชีท ขนาดความกว้าง 14.5 เมตร ยาว 27 เมตร จำนวน 1 หลัง เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเอาไว้เพื่อดำเนินคดี โดยมอบหมายให้ นายก อบต.ท่ากระดาน เป็นหน่วยงานดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร
จากการตรวจสอบการได้มาของเอกสารสิทธิ น.ส.3 เจ้าหน้าที่มีความเห็นร่วมกันว่าน่าจะออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2537 พื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นใบจอง และทางพนักงานที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี แจ้งให้ทราบว่าเอกสาร น.ส.3 ฉบับดังกล่าวนั้นออกเมื่อ ปี พ.ศ.2541 จากการนำภาพถ่ายทางอากาศเมื่อปี 2537 และปี 2545 มาเปรียบเทียบ พบว่า พื้นที่ยังเป็นป่าสมบูรณ์โดยไม่พบร่องรอยการทำกินมาก่อน อีกทั้งยังเป็นภูเขาสูงชันที่อยู่ในพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้น 2 เกือบทั้งแปลง ซึ่งต้องห้ามในการออกเอกสารสิทธิ
จากการรังวัดพื้นที่ในปี พ.ศ.2563 ปรากฏว่า จำนวนเนื้อที่และรูปแปลงที่ดินแตกต่างจากเอกสารฉบับเดิมเป็นอย่างมาก ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งผลการตรวจสอบลงในบันทึกการตรวจยึดเพื่อให้พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ ดำเนินการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.กาญจนบุรี ดำเนินการตามขั้นตอนของ ป.ป.ช.
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบบ้านพักเรือนแพ ที่อยู่กลางน้ำพบมีจำนวน 20 หลัง แต่ละหลัง กว้าง 11 เมตร ยาว 15.7 เมตร ซึ่งพนักงานของรีสอร์ตได้นำเอกสารการอนุญาตให้จอดแพจากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี ฉบับเลขที่ 0533-0552/2564 ออกเมื่อ 8 ก.ย.64 สิ้นอายุ 7 ก.ย.65 รวม 20 ฉบับ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.กล่าวว่า ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบจุดที่สอง คือบริเวณพื้นที่ที่กำลังขุดหลุมทำเป็นตอม่อเพื่อเตรียมก่อสร้างอาคาร โดยมีคนงานกำลังทำงานอยู่ 4 คน เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาที่ห้องประชุม อบต.ท่ากระดาน เพื่อสอบปากคำ โดยคนงานทั้ง 4 คน ให้การว่า ผู้ว่าจ้างชื่อนายปิ่น และจากการตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดพบว่าพื้นที่อยู่ติดกับที่ดินแปลงบุกรุกที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดเมื่อวันที่ 10 พ.ย.64 จำนวน 4-0-44 ไร่
ระหว่างสอบปากคำคนงานอยู่นั้นปรากฏว่า นายปิ่น (สงวนนามสกุล ) อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 1 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี มาพบเจ้าหน้าที่พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่าตนเป็นคนจ้างให้คนงานทั้ง 4 ราย มาก่อสร้างห้องน้ำ ห้องสุขา และปรับพื้นที่ทำลานจอดรถเอาไว้สำหรับบริการแก่นักท่องเที่ยว พื้นที่รวมกันประมาณ 88.25 ตารางวา หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงจดทำบันทึกเรื่องราวพร้อมนำตัวนายปิ่น และคนงาน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และตรวจยึดวัสดุก่อสร้างทั้งหมดเอาไว้เป็นของกลาง
สำหรับจุดที่สามที่เข้าตรวจสอบเป็นภูเขาที่อยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีฯ โดยมีร่องรอยการนำรถแบ็กโฮมาปรับพื้นที่เพื่อเตรียมสร้างรีสอร์ต พบต้นไม้ถูกรถแบ็กโฮดันล้มไปหลายต้น นอกจากนี้ ยังมีการทำถนนจากด้านล่างขึ้นมาบนภูเขาจุดที่ถูกบุกรุกด้วย จากการจับค่าพิกัดดาวเทียมพบพื้นที่ที่ถูกบุกรุกประมาณ 0-1-83 ไร่
จุดที่สี่ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย จากการตรวจสอบพบสภาพพื้นที่ที่ถูกบุกรุกมีลักษณะคล้ายกันกับจุดที่สาม จากการจับพิกัดค่าดาวเทียม สามารถคำนวณพื้นที่ที่ถูกบุกรุกได้ จำนวน 5 ไร่ แต่เนื่องจากทั้ง 2 จุดไม่พบตัวผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่จึงจดทำบันทึกเรื่องราว ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ กฟผ.เขื่อนศรีนครินทร์ พบมีการบุกรุกที่ดินพื้นที่รอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ที่ยึดที่ระดับ +180 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางลงมาอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งต่อไป” พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.กล่าว