อุบลราชธานี - นักเรียนโรงเรียนเดชอุดมสุดทนพฤติกรรมผู้อำนวยการอมเงินค่าจ้างครูต่างชาติมาสอนภาษา
ทั้งสั่งตัดต้นไม้อายุหลายสิบปีจนเหี้ยนเตียนทั้งที่ให้ร่มเงาภายในโรงเรียน และเตรียมเปลี่ยนสีเสื้อกาวน์ประจำโรงเรียน สร้างภาระผู้ปกครองต้องเสียเงินซื้อเสื้อใหม่ให้ลูกหลาน ด้าน ผอ.รู้แกวยื่นใบลาหยุดยาวทั้งสัปดาห์
วันนี้ (28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำนักเรียนโรงเรียนเดชอุดม จ.อุบลราชธานี ได้นัดรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อปราศรัยโจมตีการทำงานของนายพิทักษ์ บุญยอ ผอ.โรงเรียน และขับไล่ให้ผู้อำนวยการออกไปจากโรงเรียน โดยแกนนำของนักเรียนกล่าวว่า หลังจากนายพิทักษ์มาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนได้ไม่นาน ก็มีอาการป่วยต้องรักษาตัวอยู่นานกว่า 1 ปี ไม่ได้มาทำงาน
จนสิ้นปี 2564 หลังหายจากอาการป่วย ก็เริ่มกลับเข้ามาทำงาน และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็สั่งตัดต้นคูนและไม้อื่นๆ อายุ 20-30 ปี ที่เป็นต้นไม้ประจำโรงเรียนให้ร่มเงาแก่เด็กนักเรียนทั้งหมด
นอกจากนี้ ระหว่างกลับเข้ามาทำงานใหม่ ก็เอาเงินที่เก็บเพิ่มเป็นค่าจ้างครูต่างชาติมาสอนภาษาจากเด็กนักเรียนกว่า 3,200 คน คนละ 400 บาท แต่ไม่จ้างครูต่างชาติมาสอน ทำให้เด็กนักเรียนเสียโอกาสในการเรียน พร้อมสั่งเปลี่ยนสีเสื้อกาวน์นักเรียนจากสีแดงเลือดนก เป็นสีแดงสด ซึ่งคณะกรรมการโรงเรียนก็คัดค้าน ไม่เห็นด้วย เพราะทำให้นักเรียนได้รับความเดือดร้อนที่จะต้องซื้อเสื้อชุดใหม่ แต่ก็ไม่ฟัง
และยังเตรียมเอาเงินสหกรณ์ของโรงเรียนไปซื้อรถตู้ประจำตำแหน่งคันใหม่ รวมทั้งเอาเงินสะสมของโรงเรียนที่ใช้จัดกิจกรรมให้เด็กนักเรียนไปใช้จ่ายส่วนตัว จนไม่มีการจัดกิจกรรมระหว่างเรียน จึงไม่ต้องการให้นายพิทักษ์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนต่อไป เพราะนักเรียนเสียโอกาสที่ไม่สนใจดูแลด้านการศึกษาของเยาวชน
ด้าน ว่าที่ ร้อยตรี ฉัตรชัย แก้วคำปอด ศิษย์เก่าของโรงเรียน กล่าวว่า ทราบว่าผู้อำนวยการโรงเรียนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ส่อไปทางทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภายในโรงเรียน จึงไม่เหมาะที่จะเป็นผู้บริหารที่โรงเรียนนี้ต่อไป
โดยต้องการให้กระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 จ.อุบลราชธานี มาตรวจสอบมีการทุจริตตามที่กล่าวหาจริงหรือไม่ เพราะคณะครูพร้อมให้หลักฐาน โดยขอให้ย้ายผู้อำนวยการออกไปจากโรงเรียนก่อน
ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามขอทราบข้อเท็จจริงจากนายพิทักษ์ ปรากฏว่าได้ยื่นหนังสือลากิจตลอดทั้งสัปดาห์นี้ เมื่อพยายามสอบถามไปยังสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 จ.อุบลราชธานี ก็ไม่สามารถติดต่อผู้อำนวยการ สพม.เขต 29 ได้เช่นเดิม
ต่อมารองผู้อำนวยการโรงเรียนได้เรียกแกนนำเด็กนักเรียนไปพูดคุยหารือ โดยระบุว่าสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 จ.อุบลราชธานี จะส่งคณะกรรมการเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนในบ่ายวันนี้ เมื่อได้ข้อสรุปจะแจ้งผลให้เด็กนักเรียนทราบ พร้อมพูดจาขอโอกาสให้ผู้อำนวยการคนนี้ได้มีโอกาสแก้ตัว เพราะจะเกษียณปี 2566 และทราบว่าปลายปีอาจขอย้ายตัวเองไปอยู่โรงเรียนอื่นด้วย (โดยเจ้าตัวประสงค์ขอเข้ามาเป็น ผอ.ร.ร.เบญจะมะมหาราช หรือไม่ก็โรงเรียนนารีนุกูล ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด)
ซึ่งกลุ่มนักเรียนที่ออกมาเคลื่อนไหวระบุว่า จะรอฟังผลการสอบสวน หากไม่เป็นไปตามข้อร้องเรียนก็จะเคลื่อนไหวนำหนังสือร้องเรียนไปยื่นต่อ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไปด้วย
ทั้งนี้ เมื่อปี 2558 สมัยที่นายพิทักษ์เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอพิบูลมังสาหาร ก็ถูกนักเรียนเดินขบวนขับไล่ เพราะไม่พอใจนำเงินของโรงเรียนไปจัดซื้อจัดจ้าง โดยไม่ผ่านคณะกรรมการบริหารโรงเรียน
พร้อมนำเงินอุดหนุนการศึกษาที่รัฐบาลให้ซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนคนละ 600 บาท ไปรวมกับงบใช้ปรับปรุงซ่อมแซมทาสีอาคารเรียน โดยไม่จ่ายให้ผู้ปกครองนักเรียน ทำให้นักเรียนเสียประโยชน์ และยังไม่จัดงานวันไหว้ครู ทำให้นักเรียนต้องจัดกันเองมาแล้วครั้งหนึ่งด้วย