บุรีรัมย์ - ป้าพลทหาร “เปี๊ยก” ชาวบุรีรัมย์ ช็อก คนในค่ายบอกหลานเป็นศพที่ 4 ที่ผูกคอดับปริศนาคาค่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ จี้ต้นสังกัดออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงและรับผิดชอบไม่เชื่อหลานฆ่าตัวตาย ขณะเพื่อนรุ่นน้องเผยผู้ตายกลับมาบ้านเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนดูเครียดผิดปกติและรุ่นพี่โทร.ตามให้กลับไปเคลียร์กันที่ค่าย แถมพูดเป็นราง “ถ้าพี่ตายไปทำบุญด้วยนะ”
ความคืบหน้ากรณีที่ครอบครัวและญาติของ พลทหาร วีระวัฒน์ ตราชูวณิช หรือเปี๊ยก อายุ 22 ปี ชาว อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/64 ประจำการอยู่ที่ศูนย์การทหารอากาศแห่งหนึ่ง ที่เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ที่ต้นสังกัดแจ้งว่าเสียชีวิตจากการใช้เชือกผูกคอตายบริเวณสนามฝึกภายในค่ายฯ เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมเนื่องจากติดใจในสาเหตุการตายของ พลทหาร วีระวัฒน์ไม่เชื่อว่าจะเป็นการคิดสั้นฆ่าตัวตายเอง ไม่ว่าจะเป็นรอยช้ำที่คอซึ่งดูผิดปกติ รวมถึงเหตุจูงใจที่ทางต้นสังกัดแจ้งว่าน่าจะเกิดจากอาการป่วยซึมเศร้านั้น
ล่าสุดวันนี้ (27 มิ.ย.) บรรยากาศที่วัดโคกแก้วสองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของพลทหาร วีระวัฒน์ ยังคงมีญาติ และชาวบ้านเดินทางมาเคารพศพ พลทหาร วีระวัฒน์ อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้แสดงความเสียใจและให้กำลังใจครอบครัวด้วย แต่จนถึงขณะนี้ทางต้นสังกัดยังไม่ได้ชี้แจงหรือรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของพลทหาร วีระวัฒน์แต่อย่างใด ซึ่งญาติยืนยันว่าจะยังไม่เผาศพจนกว่าต้นสังกัดจะออกมาชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิต และให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวที่เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาในรั้วทหาร
นางศรีนวล ห้าวหาญ ป้าของ พลทหาร วีระวัฒน์ บอกว่า ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียหลานชายและยังคงคาใจสาเหตุการเสียชีวิตไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง และที่ทำให้รู้สึกแปลกใจเพราะตอนที่ไปติดต่อรับศพหลานและขอเข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุในค่ายฯ มีทหารบอกว่าหลานตนเองไม่ใช่ศพแรกที่ผูกคอตายในค่าย แต่เป็นศพที่ 4 แล้วที่ผูกคอตายปริศนาแบบนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าที่เขาบอกเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ถ้าหากเป็นความจริงก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจและทางต้นสังกัดควรออกมาชี้แจงให้ญาติและประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงและเกิดความเชื่อมั่นว่าลูกหลานที่เข้าไปอยู่ในรั้วทหารจะปลอดภัย
ขณะที่ นายเติ้ล เพื่อนรุ่นน้องของพลทหาร เปี๊ยก เล่าให้ฟังว่า ตอนที่พี่เปี๊ยกกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงวันที่ 7 มิ.ย. 65 ก่อนเดินทางกลับในวันที่ 20 มิ.ย. ซึ่งตนได้ไปนั่งเล่นกับพี่เขาที่บ้านของนายต๊ะ เพื่อนรุ่นน้องอีกคน ก็ดูพี่เขาเครียดๆ ผิดปกติ และพี่เขาก็พูดเป็นรางว่า “ถ้าพี่ตายให้ไปทำบุญด้วยนะ” ตนก็ตกใจยังถามพี่เขากลับว่าทำไมพี่พูดแบบนี้ และยังได้ยินพี่เปี๊ยกคุยโทรศัพท์กับรุ่นพี่ที่ค่ายในลักษณะว่าให้กลับไปเคลียร์กันที่ค่าย แต่พี่เขาไม่ได้เล่าให้ฟังว่าไปเคลียร์เรื่องอะไร แต่พอคุยโทรศัพท์แล้ว ดูท่าทางเครียดผิดปกติ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าพี่เขาจะฆ่าตัวตายเอง อยากจะรู้ความจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่พี่เขาด้วย