MGR Online - พ่อน้องไข่มุก เหยื่อ"คอสเพลย์อวตาร" เสียใจปกป้องลูกสาวไม่ได้ ผบก.ปคม.เผยพบเด็กสาวตกเป็นเหยื่ออีก 10 ราย ด้าน บช.ก.เตรียมจัดอบรมเยาวชนให้รู้เท่าทันอาชญากรรมออนไลน์
วันนี้ (23 มิ.ย) ที่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 11.00 น. ด.ต.ทรงภพ วันสี ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี บิดาน้องไข่มุก อายุ 14 ปี ที่ผูกคอตาย จากการถูก นายปิยบุตร อุไรงาม อายุ 27 ปี พนักงานคอลเซ็นเตอร์ บริษัทสื่อสารแห่งหนึ่ง แบล็กเมลข่มขู่ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.
ด.ต.ทรงภพ เปิดเผยว่า ในฐานะตำรวจ รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถดูแลคดีดังกล่าวได้ หลังจากได้รับรู้เรื่องราว จึงเข้าไปหารือกับผู้บังคับบัญชา พยายามรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งได้พูดคุยกับเพื่อนของลูกสาว ทราบว่า ลูกสาวได้รู้จักคนร้ายตั้งแต่ช่วงปลายเดือน กุมภาพันธ์ถึงปลายเดือนมีนาคม จึงนำข้อมูลมามอบให้กับทาง บก.ปคม. และสืบสวนขยายผลต่อนาน 2 เดือน จนสามารถชี้พิกัด และเข้าจับกุมคนร้ายได้วันนี้
"ในฐานะพ่อผมรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถดูแลปกป้องลูกสาวได้ ก่อนเกิดเหตุลูกสาวมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่ยอมไปไหนมาไหนด้วย กักตัวอยู่แต่ในห้อง จึงพยายามพูดคุยกับลูกสาว สอบถามจนทราบเรื่องราว และพบว่าก่อนหน้านี้ ลูกพยายามฆ่าตัวตายแต่ผมสามารถช่วยได้ทัน" ด.ต.ทรงภพ กล่าว
ด.ต.ทรงภพ กล่าวต่อว่า ลูกสาวมีความชื่นชอบในเรื่องของคอสเพลย์ตั้งแต่ ป.6 โดยได้จัดหาชุดคอสเพลย์มาให้เช่า มีรายได้นับหลักแสนบาท โดยตนและภรรยาได้เตือนให้ลูกระมัดระวังตัวเรื่องการแต่งคอสเพลย์ถ่ายรูป เพราะ เกรงว่าจะไม่เหมาะสมจนมาเกิดเรื่องดังกล่าว
“ในฐานะพ่อ อยากบอกลูกเป็นครั้งสุดท้ายว่า พ่อทำหน้าที่ของพ่อ ได้ดีที่สุดแล้ว แต่ลูกก็ไม่ควรจากพ่อไปไวขนาดนี้ ขอให้ลูกรู้ว่า พ่อยังรักลูกตลอดไป” ด.ต.ทรงภพ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต กล่าวว่า ในฐานะที่เราต่างเป็นพ่อคน ไม่รู้ว่าเมื่อใดลูกจะตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรม ดังนั้นจะนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้ ต้องเร่งดำเนินการเพื่อป้องปรามอาชญากรรมลักษณะนี้ และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนรู้เท่าทันอาชญากรรมในสื่อสังคมออนไลน์โดยขณะนี้ ทาง บช.ก. ได้เตรียมมาตรการเชิงรุก เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม ที่เกิดขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการเปิดโครงการป้องกันอาชญากรรมตามแนวตำรวจสมัยใหม่ โดยร่วมกับ กสทช. และมูลนิธิเกี่ยวกับเด็ก โดยเฉพาะโรงเรียนในสังกัด กทม. โดยตำรวจจะมีการทำคอนเทนท์ ส่งไปให้ครูตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อสอนเด็กเข้าใจถึงโทษภัยของอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเป็นแนวทางการป้องกันภัยต่อไป
ขณะที่ พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาภายในบ้านพัก พบว่าคนร้ายได้ก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี อีกกว่า 10 คน ซึ่งหลังจากนี้ ตำรวจจะเร่งสืบหาแหล่งปลายทางของคลิป รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีทั้งหมด พร้อมทั้งจะสอบสวนหาข้อมูลให้ได้ความชัดเจนว่าผู้ต้องหาเป็นสาเหตุของการตายของเหยื่อหรือไม่ ซึ่งจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง โดยเบื้องต้น การกระทำของผู้ต้องหาเข้าข่ายความผิดฐาน "ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรัยตนเองและผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
