อุบลราชธานี-ชุดสืบสวนแกะรอยสาวการเงินแสบเชิดเงินจากบัญชีเงินฝากเทศบาลบุณฑริก อ.บุณฑริก จ.อุบลฯไปกว่า 31 ล้านบาท เพื่อนร่วมงานเผยทำตัวเนียน กินอยู่ไม่หรูหรา แต่ดูสวยขึ้นมากกว่าตอนก่อนไม่มาทำงาน เมื่อตรวจวงรอบการใช้จ่ายเงินของเทศบาล จึงรู้ว่าแอบโอนเงินหลวงใส่บัญชีตนเอง
จากกรณีนายวรพจน์ บุตรมาตร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบุณฑริก อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ถูกพนักงานการเงินของเทศบาลแอบยักยอกโอนเงินของเทศบาลไปกว่า 31 ล้านบาทเศษ โดยตรวจสอบพบความผิดปกติเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับบรรยากาศภายในที่ทำการของเทศบาลตำบลบุณฑริก เจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ ยังคงมาทำงานตามปกติ เหลือว่างอยู่เฉพาะโต๊ะทำงานของ ส.อ.หญิงมยุรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่การเงินที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยยักยอกเงินฝากของเทศบาลที่ฝากไว้กับธนาคารกรุงไทย (มหาชน) จำกัด สาขาอำเภอบุณฑริกไปกว่า 31,700,000 บาท และไม่ได้เข้ามาทำงานร่วมสองอาทิตย์แล้ว
จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานเล่าว่า ส.อ.หญิงมยุรา มีพื้นเพเป็นคนอำเภอบุณฑริก เดิมทำงานเป็นทหารฝ่ายการเงิน และขอโอนย้ายมาทำงานที่เทศบาลแห่งนี้ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ระหว่างทำงานก็ไม่ได้ทำตัวหรูหรา มีผิดปกติช่วงระยะ 1-2 เดือนหลัง รู้สึกดูสวยกว่าตอนมาทีแรก ยังคิดว่าอาจมีการไปเสริมแต่งมาบ้าง ส่วนจะเอาเงินมากขนาดนั้น ไปใช้อะไร พวกตนไม่เคยทราบมาก่อน
ขณะที่นายวรพจน์ บุตรมาตร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบุณฑริก ผู้บังคับบัญชาของ ส.อ.หญิงมยุรา กล่าวถึงช่องว่างที่เป็นสาเหตุให้พนักงานการเงินสาวรายนี้ โอนย้ายเงินฝากของเทศบาลไปใส่ในบัญชีของตัวเองได้ มาจากระบบการจ่ายเงินที่กระทรวงมหาดไทย ให้ใช้วิธีการจ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ แทนการเบิกจ่ายผ่านเช็คแบบเก่า โดยเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา
ซึ่งตนไม่มีความรู้ จึงได้มอบรหัสในส่วนของตนที่เป็นนายกฯไว้กับ ส.อ.หญิงมยุรา เพื่อสะดวกในการสั่งจ่ายเงินต่างๆของเทศบาล โดยที่ผ่านมาก็ไม่พบปัญหาอะไร กระทั่งวันที่ 10 มิ.ย. ส.อ.หญิงมยุราไม่มาทำงานตามปกติ บอกกับป้าที่อยู่ด้วย จะเดินทางไปหาเพื่อนที่ต่างจังหวัดและก็ไม่กลับมาเลย
กระทั่งวันที่ 14 มิ.ย.ฝ่ายการคลังก็ได้ไปขอสเตทเม้นท์จากธนาคารกรุงไทย (มหาชน)จำกัด เพื่อนำมาตรวจสอบยอดการใช้จ่ายเงินรอบเดือนของเทศบาล ก็พบว่า มีการเบิกเงินของเทศบาลระหว่างคาบเดือนพฤษภาคมกับมิถุนายน ครั้งละ 200,000-1,000,000 ล้านบาทไปประมาณ 47 ครั้ง คิดเป็นยอดเงินกว่า 31,700,000 บาท จึงรู้ว่า ส.อ.หญิงมยุรา แอบถอนเงินออกจากบัญชีก่อนจะหลบหนีไป
หลังเกิดเรื่องได้เข้าแจ้งความและแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบเรื่อง ส่วนการแก้ปัญหาการเบิกจ่ายเงินใช้จ่ายของเทศบาลในช่วงนี้ โดยเฉพาะเรื่องเงินเดือนของพนักงานคงต้องอาศัยอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งจ่ายไปก่อน
ด้าน พ.ต.อ.ศาสตรา นันชนะ ผกก.บุณฑริก กล่าวถึงการสืบสวนขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างประสานกับทางธนาคาร เพื่อขอเอกสารการเบิกจ่ายเงินทั้งหมดใช้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกเงินของทางราชการ และข้อหาอื่นๆที่ตรวจพบในภายหลัง ส่วนแรงจูงใจให้กระทำผิด เบื้องต้นยังไม่ทราบว่านำไปใช้จ่ายอะไร
สำหรับผู้ต้องหาคาดว่า หลบหนีออกไปจากพื้นที่แล้ว ซึ่งชุดสืบสวนอยู่ระหว่างแกะรอยตามจับตัวมาสอบสวนปากคำ ถึงแรงจูงใจที่แอบยักยอกเอาเงินของราชการไปครั้งนี้
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านป้าที่ ส.อ.หญิงมยุรา พักอาศัยอยู่ด้วย ทางป้าไม่ขอพูดอะไร ขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฏหมาย