นครสวรรค์ - วงจรปิดจับภาพชัด..วินาทีสาวเบญจเพสป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิ หรือโรคพุ่มพวง มาก่อนเป็นซึมเศร้าซ้ำ คว้า จยย.พี่ชายบึ่งออกจากบ้านจอดกลางสะพานเลี่ยงเมืองนครสวรรค์กระโดดน้ำเจ้าพระยาสูญหายไปข้ามคืน เช้านี้ยังหาไม่พบ
วันนี้ (21 มิ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุหญิงสาวขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นไปจอดบนสะพานทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ก่อนกระโดดน้ำเจ้าพระยาฆ่าตัวตาย ขึ้นเมื่อเวลา 19.00 น.เศษที่ผ่านมา (20 มิ.ย.) ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นภาพนาทีกระโดดลงมาจากสะพานแล้วจมหายไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา
สอบถาม ร.ต.ต.วรัท วงศ์กระจ่าง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครสวรรค์ เปิดเผยว่า ช่วงค่ำเมื่อวานได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านที่พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125s สีเทา ทะเบียน 1 กช 8228 อุทัยธานี จอดอยู่กลางสะพานเลี่ยงเมืองหมายเลข 122 พื้นที่หมู่ที่ 2 ต.กลางแดด อ.เมืองนครสวรรค์
เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณกลางสะพาน และมีชาวบ้านยืนมุงดูอยู่หลายคน เบื้องต้น ทราบชื่อคนขับขี่ จยย.มาจอดคือ นางสาวปารย์ธมนต์ หรือส้ม อายุ 25 ปี อยู่บ้านหมู่ 2 ต.กลางแดด อ.เมืองนครสวรรค์
ขณะที่นายนิธิศ ศรีพิพัฒพานิช อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นพ่อของนางสาวปารย์ธมนต์ บอกว่าลูกสาวได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านช่วงเวลา 4 โมงกว่า หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงตนเองและญาติก็ได้ออกตามหาคิดว่าลูกสาวติดฝนอยู่แถวร้านสะดวกซื้อ แต่ก็ไม่เจอจึงได้วนดูหลายรอบ กระทั่งมีคนโทร.มาบอกว่าพบรถจักรยานยนต์จอดอยู่กลางสะพานเลี่ยงเมือง จึงได้เดินทางมาก็พบรถจอดอยู่จริงและเป็นรถคันเดียวกันกับที่ลูกขี่ออกมา
นายนิธิศยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่าลูกสาวเป็นโรคซึมเศร้า และได้มีการตรวจเช็กดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วพบว่าลูกสาวได้ปีนสะพานกระโดดลงไปจริง
ด้านนายวรินทร ศรีพิพัฒพานิช ซึ่งเป็นพื่ชายของนางสาวปารย์ธมนต์ ระบุว่า รถจักรยานยนต์ที่น้องสาวขี่ออกจากบ้าน เป็นรถของตนที่ใช้ทำงานขี่ส่งอาหาร แต่วันเกิดเหตุไม่ได้ทำงานเนื่องจากไปธุระยังต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ จึงจอดรถไว้ให้คนที่บ้านใช้ มารู้อีกทีช่วงเวลา 16.00 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาถามถึงเรื่องรถจักรยานยนต์ของตนถูกจอดทิ้งเอาไว้บนสะพานทางเลี่ยงเมือง จึงได้รีบใช้แอปฯ เปิดกล้องวงจรปิดของที่บ้าน จนพบว่าขณะที่น้องสาวอยู่บ้าน จู่ๆ ก็รีบคว้ากุญแจแล้วขี่รถจักรยานยนต์ของตนออกจากบ้านโดยที่ไม่ได้บอกใครในบ้านเลย ซึ่งก็ไม่คาดฝันว่าน้องสาวจะมาก่อเหตุสลดขึ้น
“เดิมทีน้องสาวผมป่วยเป็นโรคพุ่มพวงอยู่แล้ว และเขาก็เข้ารับการรักษาอยู่ตลอด แต่มาระยะหลังๆ น้องสาวผมก็มาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอีก ซึ่งเขาก็รับประทานยารักษาอยู่ตลอด แต่เมื่อไหร่ที่ไม่มีใครอยู่คอยกำกับให้รับประทานยา เขาก็จะไม่ยอมรับประทานยารักษาเลย”
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยทางน้ำมูลนิธิเจ้าพ่อกวนอูกู้ภัยนครสวรรค์ เร่งดำเนินการดำน้ำค้นหาแต่ยังค้นหาไม่เจอ จึงได้ยกเลิกภารกิจไปเมื่อช่วงเวลาเที่ยงคืน กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา (21 มิ.ย. 65) ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.กลางแดด ได้เกณฑ์คนหาปลา พร้อมเรือหางยาวอีก 3 ลำ มาช่วยดำเนินการค้นหาทางน้ำ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะตามมาสมทบเพื่อช่วยกันค้นหานางสาวปารย์ธมนต์อีกทาง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังค้นหาไม่พบแต่อย่างใด
