ศรีสะเกษ - ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยงรุดลงพื้นที่สอบถามข้อมูลและหาเบาะแส “ครูอ้อย” ครูพี่เลี้ยงศูนย์เด็กเล็กหายตัวไปนานร่วม 20 วัน เชื่อเป็นการหลอกลวงหรือหลงเชื่อไปกับผู้ชายคนหนึ่ง พบภาพวงจรปิดรถแท็กซี่มารับไป ประสานทุกโรงพักเร่งติดตามตัว ขณะสามีและน้องสาววอนรีบกลับบ้านเพราะครอบครัวญาติพี่น้องเป็นห่วงมาก เรื่องต่างๆ ค่อยมาพูดคุยกันที่บ้าน
ความคืบหน้ากรณีที่ นายรินทร์ณรงค์ คำศรีเมือง อายุ 48 ปี และ น.ส.สุธิดา ภาระ อายุ 38 ปี ได้เข้าร้องทุกข์ต่อผู้สื่อข่าวว่า นางวิไลลักษณ์ คำศรีเมือง หรือครูอ้อย อายุ 45 ปี ครูพี่เลี้ยงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.เขิน ภรรยาของตน และพี่สาวของ น.ส.สุธิดา ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 2565 โดยมีรถแท็กซี่คันหนึ่งมารับตัวไปจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งได้ออกตามหาแล้วแต่ไม่พบ ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2565 นางวิไลลักษณ์ได้โทรศัพท์มาคุยกับน้องสาวและแจ้งว่าไม่ต้องเป็นห่วงได้เลือกทางเดินของตัวเองแล้วตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (20 มิ.ย.) ที่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 3 บ้านโนนหนองสิม ต.เขิน อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.นพดล ช่วยบุญ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.น้ำเกลี้ยง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ดลวัตร ยืนยง สารวัตรสอบสวน ได้เดินทางมาพบกับ นายรินทร์ณรงค์ และ น.ส.สุธิดา เพื่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลและเบาะแสต่างๆ ของครูอ้อย ซึ่งนายรินทร์ณรงค์ และ น.ส.สุธิดาได้ให้ข้อมูลต่อ ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง ว่าครูอ้อยได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 2565 โดยจากการที่ได้ติดตามหาเบาะแสแล้วพบว่ามีรถแท็กซี่คันหนึ่งมารับครูอ้อยออกไป ตนได้พยายามติดต่อครูอ้อย แต่ว่าครูอ้อยไม่ได้รับสาย ต่อมาวันเดียวกัน น.ส.สุธิดาสามารถติดต่อกับครูอ้อยได้ ซึ่งครูอ้อยแจ้งว่าไม่ต้องเป็นห่วง ครูอ้อยได้ตัดสินใจเลือกทางเดินของตนเองแล้ว และได้ขอยืมเงินจากนางสาวสุธิดาไปจำนวน 700 บาท พร้อมทั้งได้มอบภาพวิดีโอวงจรปิดรถแท็กซี่ต้องสงสัยให้ ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง ไว้เป็นหลักฐานด้วย
นายรินทร์ณรงค์ คำศรีเมือง สามีครูอ้อย กล่าวว่า ตั้งแต่ครูอ้อยหายตัวไป ไม่เคยได้รับการติดต่อกลับมาหาตนและครอบครัวอีกเลย ตนมีความเป็นห่วงครูอ้อยมาก อยากให้กลับมาบ้านมาหาครอบครัว เนื่องจากญาติพี่น้องทุกคนรักและห่วงใยครูอ้อยมาก เกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายต่างๆ ได้
น.ส.สุธิดา ภาระ น้องสาวของครูอ้อย กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2565 ตนได้วิดีโอคอลคุยกับครูอ้อย พบว่าครูอ้อยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นคนที่หลอกลวงครูอ้อยไป ได้พากันไปเที่ยวทะเลท่าทางมีความสุขกันมาก แต่อย่างไรก็ตาม ตนมีความเป็นห่วงครูอ้อยมาก เนื่องจากว่าครูอ้อยไม่มีเงินติดตัวไปแม้แต่บาทเดียว และไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ซึ่งตนมีความเป็นห่วงกังวลว่าครูอ้อยอาจจะได้รับความเดือดร้อนและได้รับอันตรายต่างๆ จึงอยากขอให้ครูอ้อยกลับมาบ้านโดยด่วนที่สุด เนื่องจากว่าตอนนี้ญาติพี่น้องทุกคนมีความเป็นห่วงครูอ้อยมาก มีเรื่องอะไรต่างๆ มาพูดคุยกันได้ ไม่ควรไปหลงเชื่อผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่สามีของตนเองหรือว่าไม่ใช่เป็นพ่อของตนเอง
พ.ต.อ.นพดล ช่วยบุญ ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง กล่าวว่า เรื่องนี้จากการตรวจสอบข้อมูลแล้วคาดว่า เป็นการหลอกลวงหรือครูอ้อยหลงเชื่อในผลประโยชน์อะไรบางอย่าง จึงไปกับผู้ชายคนดังกล่าว เบื้องต้นไม่น่าเป็นการบังคับขู่เข็ญ และเชื่อว่าตอนนี้ครูก็ยังปลอดภัยอยู่ ซึ่งจะได้พยายามหาทางติดต่อกับครูอ้อยเพื่อให้กลับมาพูดคุยกันกับครอบครัวจะได้รับทราบปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เรื่องนี้ไม่ใช่คดีอาญาเนื่องจากว่าครูอ้อยไม่ใช่ผู้เยาว์แล้ว จึงขอฝากถึงครูอ้อยว่าขอให้รีบติดต่อกลับมาบ้านโดยด่วนที่สุด อีกทั้งตนจะได้ประสานงานไปยังสถานีตำรวจทุกแห่งเพื่อขอให้ช่วยติดตามตัวครูอ้อยด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
