สระแก้ว - เจออีกกลุ่มคนไทยถูกหลอกทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ไลฟ์สดขอความช่วยเหลือ บอกมีด้วยกันประมาณ 40 คน สุดทนทุกข์ทั้งถูกกัก ถูกทำร้าย และยังถูกขายต่อหลายทอด ชี้มีนายหน้าเป็นคนไทยด้วยกัน วอนหน่วยงานรัฐช่วยด่วน ล่าสุดถึงหู "บิ๊กโจ๊ก" แล้ว
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “กิต ภัทรพล” ซึ่งเป็น 1 ใน 40 คนไทยที่ถูกหลอกให้เดินทางข้ามแดนไปทำงานในประเทศกัมพูชา จนถูกขายต่อมายังเมืองปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย กระทั่งสุดท้ายถูกกักขังให้อยู่ภายในตึกย่านไชน่าทาวน์ เมืองพระสีหนุวิวล์ ได้ทำการไลฟ์สดขอความช่วยเหลือ หลังต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกกักขัง
โดยช่วงหนึ่งของการไลฟ์สดได้บอกว่าพวกตนถูกนายหน้าคนไทยหลอกให้มาทำงานกับนายทุนชาวจีน โดยมีหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทยให้กู้เงิน และหากทำงานไม่ได้หรือไม่ยอมทำงานจะถูกขายต่อให้นายทุนรายอื่น
ขณะที่อีกช่วงของการไลฟ์สดกลุ่มคนไทยที่ถูกกักขังยังพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเพื่อขอร้องให้ผู้ที่เห็นคลิปดังกล่าวช่วยส่งต่อข้อความไปเรื่อยๆ เพื่อให้ถึงหน่วยงานราชการของไทยที่จะสามารถช่วยเหลือพวกตนได้ และยังฝากเตือนคนที่คิดจะมาทำงานในลักษณะดังกล่าวให้ระมัดระวัง และยังได้ระบุพิกัดซึ่งถูกควบคุมตัวล่าสุดว่าอยู่ที่บริษัทไวท์แซนบิวดิ้ง ที่มีพื้นที่ติดท่าเรือน้ำลึก
และยังบอกอีกว่า ขณะนี้ผู้ที่ถูกกักขังอยู่ด้วยกันมีอาการเจ็บป่วยจำนวนมาก และขณะนี้อยากกลับบ้าน โดยกลุ่มผู้ที่ถูกขังมีทั้งผู้หญิง และเด็กวัยรุ่นอายุ 15-16 ปี รวมถึงเด็กออทิสติกรวมอยู่ด้วย
ล่าสุด ร.ต.อ.กฤษณะ เอี่ยมสะอาด ตำแหน่ง รอง สว. กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ซึ่งได้เห็นคลิปดังกล่าวเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองติดต่อพูดคุยกับกลุ่มคนไทยดังกล่าวเพื่อให้กำลังใจ และแนะนำการปฏิบัติตัวเพื่อให้อยู่รอดและให้รวมกลุ่มกันไว้เพื่อรอเวลาที่หน่วยงานที่ต่างๆ ทั้งสถานทูตไทย รวมทั้งตำรวจไทยและกัมพูชาจะเข้าไปช่วยเหลือ
และขณะนี้ได้รายงานเรื่องไปยัง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อให้รับทราบและประสานหาแนวทางช่วยเหลือแล้ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มคนไทยดังกล่าวยังได้ทำการไลฟ์สดขณะกำลังถูกส่งต่อไปขายให้นายทุนรายใหม่ โดยเป็นภาพที่ทุกคนกำลังเดินตามกันลงมาจากตึกและมีผู้ควบคุม รวมทั้งยังถูกข่มขู่และถูกใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าทำร้ายร่างกายอีกด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยและสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ได้รับทราบเรื่องแล้วและอยู่ระหว่างการประสานงานไปหน่วยงานของศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อประสานไปยังทางการกัมพูชาเข้าให้การช่วยเหลือ
