สุรินทร์- รวบแล้ว หนุ่มลิทัวเนียโหดฆ่าสาวสองเมืองช้างห่อศพซุกห้องเก็บของในบ้าน อ.ปราสาท นาน 3 สัปดาห์ ขณะหลบหนีไปกบดานอยู่พัทยา ตร.สุรินทร์เตรียมนำตัวมาดำเนินคดี ด้านแม่ลั่นไม่ให้อภัยคนร้ายสดุดเหี้ยมและขอให้ประหารชีวิต เผยใช้ขวดตีหัวจนเละและสุนัขพิตบูลหายไป 1 ตัว คาดปมหึงหวง ระบุลูกเป็นเสาหลักครอบครัว
วันนี้ ( 16 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายธีรพงศ์ ล้ำเหลือ อายุ 31 ปีสาวประเภทสองถูกฆาตกรรมอำพรางใช้ผ้าห่มห่อศพซุกไว้ในห้องเก็บของ ภายในบ้านเลขที่ 107 ม.11 ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ส่งกลิ่นเน่าเหม็นรุนแรง ญาติแจ้งกู้ภัยมาตรวจสอบจึงพบศพเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 15 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่คาดเสียชีวิตมาประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว ส่วนฆาตกรผู้ก่อเหตุคาดว่าเป็นหนุ่มคู่ขาชาวต่างชาติ ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นชาวลิทัวเนีย ไม่ใช่ชาวรัสเซียอย่างที่ญาติเข้าใจ คบกันได้ 6-7 เดือน โดยนัดเจอกันที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้านแม่คาดทะเลาะและทำร้ายร่างกายกัน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ นายธีรพงศ์ ล้ำเหลือ อายุ 31 ปี สาวประเภทสอง ผู้เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 107 ม.11 บ.ตาลวก ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบบ้านถูกปิดเงียบ และยังคงมีกลิ่นเน่าเหม็นศพโชยออกมาเป็นระยะๆ ขณะที่บ้านแม่ของผู้เสียชีวิตที่อยู่ใกล้กัน พบชาวบ้านมาช่วยกันกางเต็นท์เตรียมจัดงานศพ ด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลด ขณะที่ชาวบ้านต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์โหดเหี้ยมที่เกิดขึ้น ซึ่งศพของผู้เคราะห์ร้ายอยู่ระหว่างผ่าพิสูจน์เพื่อชันสูตร อยู่ที่ โรงพยาบาลสุรินทร์ คาดว่าจะขอรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านภายในวันเดียวนี้
ด้าน นางวันดี ล้ำเหลือ แม่ของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ตนจะไม่ให้อภัยคนร้ายเพราะทำโหดเหี้ยมเกินไปและขอให้ประหารชีวิต ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน คนตายเป็นคนโต เป็นเสาหลักของครอบครัวหาเลี้ยงดูแลครอบครัวมาตลอด ซื้อที่ดินสร้างบ้านให้แม่หลายหลัง ดูแลครอบครัวมาโดยตลอด ฝรั่งคนก่อเหตุดังกล่าวตนเพิ่งเห็นมาอยู่กับลูกของตนได้ 1 สัปดาห์ เขาชอบซื้อเบียร์ไปกินกันภายในบ้าน 2 คน และวันที่ 26 พ.ค. 65 ที่ป่านมาฝรั่งคนดังกล่าวไปซื้อเบียร์มาให้ตน 1 ลัง และนั่งกินด้วยกันที่บ้านของตน ดูเขาเมาและร้องเพลงเหมือนคนเมาปกติ แต่สังเกตเห็นรอยคราบเลือดที่ขา และมีแผล เขาบอกว่าขวดแตกเลยกระเด็นมาบาดขา ตนก็ไม่ได้เอะใจ และนั่งกินกับเขาไปจนถึง 3 ทุ่ม จากนั้นเขาก็กลับบ้าน แต่ลูกของตนไม่ได้มานั่งกินด้วยแต่อย่างใด
จากนั้นตนก็ลุกไปตลาด ประมาณตี 2 พบบ้านปิด ไม่พบรถยนต์ที่เขาเช่ามาจาก จ.อุบลราชธานี คิดว่าเขาคงกลับไปกันแล้ว ทำไมไม่บอกแม่ จนเวลาผ่านไปและมีคนพบศพเมื่อวานนี้ ( 15 มิ.ย.) ซึ่งหมาพันธุ์พิตบูลก็หายไปด้วยไม่ทราบว่าไปไหน หรืออาจถูกฆ่าตายนำไปฝังที่ใดที่หนึ่ง เพราะเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 พ.ค. ฝรั่งเขาเดินไปขอพลั่วกับพ่อด้วย
นางวันดี กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำคลิปวิดีโอจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสาร มาเปิดให้ดูด้วยพบว่า ฝรั่งเขาขับรถเก๋งคันที่เช่ามาไปจอดทิ้งไว้ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.ปราสาท แล้วขึ้นรถทัวร์โดยสารสายระยอง ออกไป ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากหึงหวง เพราะลูกของตนคบอยู่กับฝรั่งชาวอังกฤษ มาประมาณ 7 ปี เขาสร้างบ้านหลังที่เขาอยู่ให้ หมดไปหลายแสน เขาอยู่ที่อังกฤษไม่ได้มานานแล้ว เขาคงยังไม่ทราบ แม่ก็ไม่มีเบอร์จะโทรศัพท์ไปบอก ส่วนโทรศัพท์มิถือคนตายก็หายไปด้วย
“ ตอนที่พบศพลูกสาว ตนเข้าไปดูศพด้วยพบว่าที่ศีรษะถูกตีจนเละไปหมด คาดว่าน่าจะใช้ขวดกระหน่ำตี เพราะพบเศษขวดแตกเกลื่อนกลาดเต็มบ้านไปหมด ล่าสุดทราบจากตำรวจว่า พบตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว อยู่ในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี กำลังจะควบคุมตัวมาสอบปากคำ และกำลังขออนุมัติศาลออกหมายจับ” นางวันดี แม่ผู้ตายกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ชัยณรงค์ บุญด้วง รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ กล่าวถึงความคืบน้าทางคดีว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย ทราบว่าผู้ตายกับผู้ต้องสงสัยเป็นเพื่อนกัน เข้ามาใน จ.สุรินทร์ เมื่อเดือนที่แล้ว ต่อมาเมื่อวานนี้ ( 15 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบผู้เสียชีวิตนอนอยู่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งผู้ต้องสงสัยได้หลบหนีไป ซึ่งผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า คดีนี้จะทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหามาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ยืนยันว่า ตำรวจ สภ.พัทยา สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวต่างชาติ คือ MR.MARIUS KUNICKAS สัญชาติลิทัวเนีย ได้ในพื้นที่ สภ.พัทยา จ.ชลบุรี เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา ด้วยการติดตามสืบสวนจากระบบติดสัญญาณโทรศัพท์ ที่คนร้ายนำเครื่องโทรศัพท์ของผู้ตายติดตัวไปด้วย ขณะนี้กำลังนำตัว กลับมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยจะมีการตรวจดีเอ็นเอของผู้ก่อเหตุจากหลักฐานของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรสุรินทร์ ซึ่งได้เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้( 15 มิ.ย.) เพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
