พ่อชี้ปมผลประโยชน์! หนุ่มถูกฆ่าหมกท้ายรถพร้อมเมียท้องที่ไต้หวัน จี้จับตัวเพื่อนไทยโหดมาดำเนินคดี

อุบลราชธานี– พ่อหนุ่มไทยถูกเพื่อนร่วมงานฆ่าหมกท้ายรถหรูพร้อมเมียตั้งท้องลูกแฝด 5 เดือน ทิ้งไว้ลานจอดรถที่ไต้หวัน ก่อนขึ้นเครื่องเผ่นกลับเมืองไทย ระบุไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด คาดแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว จี้ทางการไทยเร่งจับตัวมาดำเนินคดี เพราะพฤติกรรมเหี้ยมโหด

 ความคืบหน้ากรณี 2 สามีภรรยาชาวไทยถูกฆาตกรรมยัดท้ายรถยนต์หรู BMW จอดทิ้งหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงในประเทศไต้หวันนั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 153 บ้านท่าลาด หมู่ที่ 1 ตำบลท่าลาด อำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านของ นายธีรศักดิ์ โนราษ อายุ 58 ปี บิดานายประเสริฐ หรือมาส โนราษ อายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตพร้อม นางสาวมี่ ภรรยาชาวไทย สัญชาติไต้หวัน ซึ่ง ตั้งท้องแฝดได้ 5 เดือน ยัดไว้ในท้ายรถ BMW


นายธีรศักดิ์ เล่าว่า ตนเองได้ทราบเรื่องการเสียชีวิตของลูกชายเมื่อค่ำวันวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยพี่สาวของนางสาวมี่ ภรรยาของนายประเสริฐ โทร.มาแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ นายประเสริฐ กับนางสาวมี่ ภรรยา ถูกฆ่าทิ้งไว้ท้ายรถ BMW ในลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน โดยทั้งคู่คาดว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน

โดยก่อนเสียชีวิตถูกทำร้ายร่างกาย ก่อนนำศพยัดใส่ท้ายรถมาจอดทิ้งไว้ ส่วนผู้ก่อเหตุคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนสนิทชาวไทยที่ทำงานด้วยกัน และหลังเกิดก่อเหตุ เพื่อนสนิทคนนี้ ก็ได้บินกลับมายังประเทศไทย แต่ยังไม่ทราบไปหลบอยู่ที่ใด

นายธีรศักดิ์ เล่าต่อว่า ปกติ นายประเสริฐ ได้ไปทำงานที่ประเทศไต้หวันมาหลายปี จนได้ภรรยาเป็นสาวไทย แต่สัญชาติไต้หวัน และจดทะเบียนอยู่กินด้วยกัน ต่อมาทั้งคู่ได้เปลี่ยนมาทำธุรกิจข้าวกล่องส่งให้แรงงานไทยตามโรงงาน และสั่งผลไม้ กับลอตเตอรี่จากประเทศไทยไปขายให้กับแรงงานไทย จนพอมีฐานะ ก็ส่งเงินมาเลี้ยงดูตนและพี่น้องเดือนละ 3,000 บาท ก่อนจะถูกฆ่าตาย


โดยก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ตนยังได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับนายประเสริฐ ซึ่งลูกชายบอกว่า วันที่ 15 มิ.ย.นี้ จะพาภรรยามาเมืองไทย เพื่อพักผ่อนและจะพานายธีรศักดิ์กับคนในครอบครัวไปเที่ยวทะเล หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีก จนพี่สาวของนางสาวมี่ ภรรยานายประเสริฐโทร.มาบอกว่านายประเสริฐและภรรยาถูกฆ่าตายแล้ว

ส่วนผู้ก่อเหตุคาดว่า น่าจะเป็นเพื่อนชาวไทยที่ทำงานด้วยกันในประเทศไต้หวัน หลังเกิดเหตุได้หายตัวไป และทราบว่าบินกลับมาประเทศไทยแล้ว ส่วนตัวและครอบครัวไม่รู้จักกับเพื่อนคนนี้มาก่อน เห็นแต่รูปภาพในเฟซบุ๊ก

ส่วนสาเหตุที่ต้องฆ่ากันนั้น ตนไม่ทราบแน่ชัด อาจจะเป็นเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว แต่ต้องดูการสืบสวนของทางไต้หวัน ถึงจะชี้ชัดถึงสาเหตุได้ สำหรับการจัดการศพ ได้ขอให้พี่สาวของนางสาวมี่ภรรยาช่วยจัดการฌาปนกิจ ที่ประเทศไต้หวัน แล้วส่งกระดูกกลับมาให้บำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด เพราะไม่สามารถเดินทางไปรับศพได้ เนื่องจากติดปัญหาการระบาดของโควิด -19 ซึ่งทางการไต้หวันจะกักตัว ถ้าเดินทางไปรับศพ จึงได้แต่ส่งเอกสารญาติฝ่ายภรรยาช่วยดำเนินการแทน

พร้อมอยากให้ทางการไทยเร่งติดตามจับตัวเพื่อนคนไทยที่ก่อเหตุ และหนีกลับมาประเทศไทย เพราะมีพฤติกรรมเหี้ยมโหดที่ทำเช่นนี้