RTI/MGR Online - โหดคนไทยฆ่ากันเองที่ไต้หวัน คาดขัดแย้งเรื่องหนี้สิน สองสามีภรรยา พร้อมเด็กแฝดในท้อง 5 เดือนถูกฆ่ายัดท้ายรถ BMW หรู จอดทิ้งหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูง สงสัยผู้ต้องหาเป็นเพื่อนสนิทที่หลบหนีกลับไทย ตำรวจไต้หวันขอความช่วยเหลือฝ่ายไทยช่วยตามล่าตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (12 มิ.ย.) สถานีวิทยุแห่งชาติไต้หวัน (Radio Taiwan International; RTI) รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่่ 10 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เวลา 09.00 น. สถานีตำรวจจงลี่ได้รับแจ้งมีกลิ่นเหม็นเน่าคล้ายกลิ่นศพโชยมาจากลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน ตำรวจรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถสปอร์ตเอสยูวีหรูสีขาว ยี่ห้อ BMW X4 จอดอยู่และมีน้ำเหลืองไหลออกจากท้ายรถ เปิดดูเป็นศพของชายหญิงคู่หนึ่ง โดยสันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน บนศีรษะและตามร่างกายมีรอยถูกตีด้วยของแข็ง สันนิษฐานว่า ผู้ตายทั้งสองถูกทำร้ายจนเสียชีวิตจากที่อื่น จากนั้นผู้ร้ายนำศพยัดใส่ท้ายรถของผู้ตายขับไปจอดทิ้งไว้ในลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูง
จากการตรวจสอบของตำรวจพบว่า ผู้ตายเป็นสามีภรรยากัน ฝ่ายหญิงเป็นชาวไทยที่ได้สัญชาติไต้หวันแล้ว ตั้งครรภ์ทารกแฝดสองได้ 5 เดือน ส่วนสามีเป็นสัญชาติไทยมาจากอุบลราชธานี โดยเมื่อคืนวันที่ 8 มิ.ย. เวลาประมาณ 22.15 น. ฝ่ายหญิงปรากฏตัวในกล้องวงจรปิดที่เขตถู่เฉิน นครนิวไทเป น่าจะเป็นที่เกิดเหตุแห่งแรก ส่วนที่จอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูง ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดพบชายคนหนึ่งขับรถคันดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้เมื่อรุ่งเช้าของวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 04.50 น. จากนั้นลงจากรถรีบเดินหนีไป จากการตรวจสอบผู้ต้องหาเป็นคนไทยที่ได้รับสัญชาติไต้หวันแล้วเช่นกัน และหลังเกิดเหตุก็เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว โดยตำรวจไต้หวันกำลังตรวจสอบข้อมูลการเดินทางและขอความช่วยเหลือไปยังตำรวจไทยเพื่อช่วยตามล่าตัวมาดำเนินคดี
เท่าที่ทราบ หญิงผู้ตายเดินทางมาศึกษาต่อที่ไต้หวัน เคยทำงานเป็นล่ามมาก่อน เป็นที่รู้จักกันในนาม “ล่ามมี่” ส่วนสามีชื่อนายประเสริฐ แรงงานไทยเรียกกันว่า “เฮียมาร์ค” ทำข้าวกล่องส่งขายแรงงานไทยในโรงงานเถาหยวน ส่วนผู้ต้องหาเป็นคนบ้านเดียวกันที่ผู้ตายไว้ใจ ทำงานเป็นล่ามคุมหออยู่ที่ไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่งที่เขตถู่เฉิง นครนิวไทเป และเป็นลูกหนี้ยืมเงินจากผู้ตายไปปล่อยกู้แก่แรงงานไทย สันนิษฐานว่า เกิดความขัดแย้งในเรื่องการกู้เงินและผลประโยชน์ จนเป็นเหตุนำไปสู่คดีฆาตกรรมดังกล่าว ตำรวจรู้ตัวผู้ต้องหาซึ่งหลบหนีกลับไปกบดานประเทศไทยไปแล้ว เมื่อเวลา 10.10 น. โดยสายการบิน STARLUX เที่ยวบินที่ JX741 กรมสอบสวนคดีอาญา สำนักงานตำรวจไต้หวันได้ประสานหน่วยงานไทยช่วยติดตามจับกุม เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในไต้หวันต่อไป
อนึ่ง จากข้อมูลการบิน เที่ยวบินที่ JX741 ของสายการบิน STARLUX เดินทางจากสนามบินเถาหยวน ไต้หวัน ถึงสนามบินสุวรรณภูมิของไทย โดยลงจอดในเวลา 12.44 น. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการที่ระบุไว้ในเวลา 13.30 น.