บุรีรัมย์- ร้านข้าวแกงบุรีรัมย์แบกรับภาระต้นทุนไหว หลังราคาวัตถุดิบทุกอย่างแพงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 20 จ่อปรับราคาข้าวแกงอีกจานละ 5 บาทเพื่อความอยู่รอด เผยปัจจัยหลักที่ทำให้ข้าวของราคาแพงเกิดจากราคาน้ำมันปรับตัวพุ่งสูงขึ้น วอนรัฐบาลเร่งหามาตรการแก้ปัญหาน้ำมันและข้าวของราคาแพง ก่อนกระทบหนักกว่านี้
วันนี้ (14 มิ.ย.) หลังจากที่วัตถุดิบในการประกอบอาหารจำหน่ายเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ พืชผัก เครื่องปรุงรส รวมไปถึงก๊าซหุงต้ม ได้มีการปรับราคาสูงขึ้นจากเดิมเฉลี่ย 10 – 20 บาท ก็ส่งผลกระทบกับบรรดาร้านจำหน่ายอาหาร โดยเฉพาะร้านขายข้าวแกงก็ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น
จากการสำรวจร้านขายข้าวแกงในเขตอำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้นทุนในการประกอบอาหารหรือข้าวแกงขายเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงร้อยละ 20 ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด โดยบางร้านเลือกใช้วิธีปรับลดปริมาณอาหารลง แต่ยังขายราคาเท่าเดิม เพราะไม่อยากให้กระทบกับลูกค้า แต่บางร้านก็เลือกที่จะปรับราคาขายให้สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับขึ้น
อย่างเช่น ร้านข้าวแกง ป้าต่าย ตั้งอยู่ริมถนนบุรีรัมย์ – ประโคนชัย เยื้องกับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ ซึ่งเปิดขายมากว่า 3 ปีบอกว่า ช่วงนี้ราคาเนื้อหมู ไก่ ไข่ พืชผัก และเครื่องปรุงรส รวมไปถึงก๊าซหุงต้ม ซึ่งเป็นวัตถุดิบและปัจจัยหลักที่จะต้องใช้ในการประกอบอาหารขายแพงขึ้นทุกอย่างเฉลี่ย 10- 20 บาท ทางร้านจึงเตรียมปรับขึ้นราคาข้าวแพงเพิ่มอีกจานละ 5 บาท จากปกติข้าวแกงราดกับอย่างเดียวจานละ 30 บาท จะปรับขึ้นเป็นจานละ 35 บาท หากราดกับ 2 อย่างจากเดิมขายจานละ 40 บาท ก็จะปรับเป็นจานละ 45 บาท หากราดกับ 3 อย่าง เดิมขายจานละ 50 บาท จะปรับเป็นจานละ 55 บาท เพื่อความอยู่รอด แต่ตอนนี้ยังขายราคาเดิมไปก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ภาวะราคาสินค้าต่างๆ อีกสักระยะหากแบกรับไม่ไหวก็ต้องติดประกาศขอปรับขึ้นราคา