สมุทรสงคราม - งานศพอดีตเลขานุการนายก อบต.เหมืองใหม่ จ.สมุทรสงคราม เจ้าภาพขอเปลี่ยนหรีดดอกไม้ เป็นหรีดข้าวสารแทน โดยได้ข้าวสารกว่า 6 ตัน บริจาคต่อให้องค์กรการกุศล โรงเรียน และผู้ยากไร้ รวมทั้งผู้มาร่วมงาน
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่วัดอินทาราม ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายกฤษณะ รัตนกรณ์ อายุ 38 ปี อดีตเลขานุการนายก อบต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นที่รู้จักรักใคร่ของคนในพื้นที่ ได้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลว มีผู้ที่รู้จักเคารพนับถือมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก
สิ่งที่ทำให้ผู้มาร่วมงานแปลกใจคือ มีข้าวสารบรรจุถุงๆ ละ 5 กิโลกรัม กองใหญ่วางอยู่ทางออกศาลาที่ตั้งศพ สอบถามเจ้าภาพทราบว่า เป็นความคิดของพระครูพิศิษฏ์ประชานาถ หรือ ดร.หลวงพ่อแดง นันทิโย เจ้าอาวาสวัดอินทาราม ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของผู้ตาย ที่ขอให้เจ้าภาพบอกผู้ที่จะนำพวงหรีดดอกไม้มาแสดงความไว้อาลัยต่อผู้จากไป ขอให้เปลี่ยนเป็นข้าวสาร ทำให้ตลอดทั้ง 3 คืน ที่ตั้งศพสวดพระอภิธรรม มีผู้นำข้าวสารบรรจุถุงๆ ละ 5 กิโลกรัม มามอบให้ในรูปของหรีดข้าวสาร รวมแล้วประมาณ 6 ตัน ซึ่งทางเจ้าภาพได้มอบข้าวสารส่วนหนึ่งให้หน่วยงาน องค์กร โรงเรียนต่างๆ ในถิ่นทุรกันดาร รวมทั้งผู้ยากไร้
นอกจากนี้ หลังพิธีวางดอกไม้จันท์ยังได้แจกข้าวสารเป็นที่ระลึกให้ผู้ที่มาร่วมงานประมาณ 800 คน คนละ 1 ถุงๆ ละ 5 กิโลกรัม พร้อมเหรียญท้าวเวสสุวรรณวัดอินทาราม ให้ทุกคนติดมือกลับบ้านอีกด้วย
พระครูพิศิษฐ์ประชานาถ หรือ ดร.หลวงพ่อแดง บอกว่า การเปลี่ยนหรีดดอกไม้ หรือหรีดผ้ามาเป็นหรีดข้าวสาร เริ่มจากมีญาติโยมที่บนบานศาลกล่าวท้าวเวสสุวรรณ ของวัดอินทาราม แล้วสมหวัง แก้บนกันด้วยประทัด อาตมาเห็นว่านอกจากเสียงดังแล้วยังไม่มีประโยชน์อะไร จึงขอให้แก้บนกันด้วยข้าวสาร ที่ผ่านมา ทางวัดอินทารามนำข้าวสารที่ญาติโยมแก้บนท้าวเวสสุวรรณ ไปแจกผู้ยากไร้ และมอบให้วัด โรงเรียนทั้งในและนอกพื้นที่แล้วเป็น 100 ตัน
จึงได้นำความคิดนี้มาใช้กับงานศพ ที่ปกติเมื่อมีงานศพ เพื่อนๆ ญาติพี่น้อง ตลอดจนผู้ที่เคารพนับถือผู้ตายจะนำพวงหรีดมาแสดงความเคารพศพ ส่วนใหญ่จะเป็นพวงหรีดดอกไม้ มองแล้วสวยงามก็จริง แต่เมื่องานเสร็จแล้วต้องทิ้งเป็นขยะ หรือไม่ต้องนำไปเผาทำลาย นอกจากเป็นภาระให้วัดแล้ว ยังเป็นมลพิษ และเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ แต่หากเปลี่ยนเป็นข้าวสาร เสร็จงานแล้วนำไปแจกผู้ยากไร้ และโรงเรียนต่างๆ โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดารเพื่อเป็นอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนจะได้ประโยชน์มากกว่า และยังเป็นการสร้างกุศลให้ทั้งคนอยู่และผู้ตายได้เป็นอย่างดี