xs
xsm
sm
md
lg

ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ดันเทศบาลนครแหลมฉบังเป็นการปกครองรูปแบบพิเศษรับ ECC

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวศรีราชา - คณะทำงานขับเคลื่อนการถ่ายโอนภารกิจ เทศบาลนครแหลมฉบัง ถกวางกรอบการทำงานขับเคลื่อน ดันให้เทศบาลนครแหลมฉบังเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ สอดรับกับยุทธศาสตร์ของพื้นที่ EEC

วันนี้ (6 มิ.ย.) เทศบาลนครแหลมฉบัง จัดการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการถ่ายโอนภารกิจการจัดทำบริการสาธารณะของเทศบาลนครแหลมฉบังในรูปแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ (อสมมาตร) ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Zoom Meeting) โดยได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.ธัชเฉลิม สุทธิพงษ์ประชา ประธานคณะทำงานขับเคลื่อน เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วย นายบุญเลิศ น้อมศิลป์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแหลมฉบัง ที่ปรึกษาคณะทำงานขับเคลื่อน นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง และผู้บริหารเทศบาล ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมเมืองใหม่ 2 เทศบาลนครแหลมฉบัง

นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง กล่าวว่า มีคำสั่งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการถ่ายโอนบริการสาธารณะ กิจกรรมสาธารณะ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ (อสมมาตร) ที่ 3/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการถ่ายโอนภารกิจการจัดทำบริการสาธารณะของเทศบาลนครแหลมฉบัง ในรูปแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ (อสมมาตร) เพื่อทำงานขับเคลื่อนการถ่ายโอนภารกิจ การจัดทำบริการสาธารณะของเทศบาลนครแหลมฉบัง

โดยคณะทำงานมีหน้าที่และอำนาจศึกษา วิเคราะห์แนวทาง กำหนดหน้าที่ และอำนาจในการจัดทำบริการสาธารณะของเทศบาลนครแหลมฉบัง เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ กฎหมายกำหนดไว้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแหลมฉบัง ซึ่งจัดทำโดยเทศบาลนครแหลมฉบัง ทั้งนี้ ยังต้องจัดทำรายงานผลการพิจารณาศึกษาและข้อเสนอแนะ สรุปความคิดเห็นของประชาชนในเขตเทศบาลนครแหลมฉบัง ต่อคณะอนุกรรมการ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาต่อไป

รศ.ดร.ธัชเฉลิม สุทธิพงษ์ประชา ประธานคณะทำงานขับเคลื่อน เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมคณะทำงานของคณะกรรมการกระจายอำนาจ เพื่อวางกรอบการทำงาน ขับเคลื่อนให้เทศบาลนครแหลมฉบังเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ซึ่งจากความเห็นของกรรมาธิการ ที่สภาผู้แทนราษฎรลงความเห็นว่า เทศบาลนครแหลมฉบังเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นเมืองพิเศษ เนื่องจากอยู่ในเขตพื้นที่ EEC ซึ่งขั้นแรกเทศบาลต้องยกร่างกฎหมายฉบับใหม่

เพื่อให้แหลมฉบังมีการปกครองแบบเมืองพัทยา มีกฎหมายเป็นของตัวเอง ทั้งนี้ ทางเลขา EEC ชี้แจงว่า พ.ร.บ.EEC พร้อมเปิดโอกาสให้นครแหลมฉบัง ยกระดับขึ้นเป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ขั้นตอนต่อไปทางคณะกรรมการต้องร่วมหารือกับเทศบาลนครแหลมฉบังว่าจะทำอะไรให้พิเศษ หรือมีโครงการพิเศษ กิจกรรมที่ไปสอดรับกับยุทธศาสตร์ของ EEC สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ และอยู่ในขอบเขตที่เทศบาลนครแหลมฉบังจะทำได้ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการต่อไป

"สำหรับการเป็นเมืองพิเศษแบบพัทยาคงไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะการเสนอกฎหมายเข้าไปในสภาต้องใช้เวลาพอสมควร อีกทั้งรัฐบาลชุดนี้ใกล้หมดวาระแล้ว ทางคณะทำงานจึงเห็นว่ายังไม่เสนอเข้าไป แต่หากว่าเป็นเมืองพิเศษเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษที่แตกต่างจากการปกครองในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทย หากทำได้ จะเป็นที่แห่งแรกของประเทศไทย ที่เป็นเมืองเก่าแล้วที่นำมารีโนเวตใหม่ อาจจะเกิดขึ้นได้ในเร็วๆ นี้น่าจะภายในปีนี้ ถ้าทำคณะทำงานได้ทำงานตามแผนที่วางไว้และไม่มีปัญหาอื่นๆ คงได้รับข่าวดีอย่างแน่นอน" รศ.ดร.ธัชเฉลิม กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น