หนองคาย - ศุลกากรหนองคายเผยมีคนไทยลอบบรรจุน้ำมันใส่ถัง 30 ลิตรแอบขนไปขายฝั่งลาว จับได้แล้ว 3 ราย เหตุราคาน้ำมันต่างกันถึง 10 บาท ขณะที่เปิดประเทศคนลาวเข้าไทยมากถึงวันละ 2 พันคน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันนี้ (1 มิถุนายน 2565) หลังจากที่ จ.หนองคาย โดยนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ประกาศพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์โควิด 19 ของจังหวัดหนองคายเป็นพื้นที่สีเหลือง และนับตั้งแต่มีการเปิดด่านสากลให้คนไทย คนลาว เดินทางผ่านด่านสากลได้ตามปกตินั้น พบว่าขณะนี้ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย บรรยากาศคึกคัก มีประชาชนคนไทยและคนต่างชาติเดินทางเข้าออกอย่างต่อเนื่อง
นายภาคิน เทียบคำ หัวหน้าฝ่ายควบคุมและตรวจสอบทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า ตั้งแต่มีการเปิดด่านสากลให้ประชาชนทั้งสองประเทศเดินทางเข้าออกได้ตามปกติ หลังสถานการณ์โควิดผ่อนคลายลง ทำให้บรรยากาศที่ด่านเริ่มคึกคัก จากที่เคยมีคนเข้าออกวันละประมาณ 300 คน อัตราคนเข้าออกเพิ่มขึ้นตอนนี้ประมาณวันละ 2,000 คน นับตั้งแต่วันที่ 9-31 พ.ค. 65 มีชาวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 30,000 คน
ส่วนคนไทยเดินทางออกนอกประเทศไป สปป.ลาว ประมาณ 28,000 คน ยานพาหนะที่เข้ามาเป็นของต่างประเทศมีประมาณ 5,500 คัน คนไทยนำรถออกไปประมาณ 1,700 คัน
สำหรับการค้าชายแดนลดลงเพราะอัตราแลกเปลี่ยน ก่อนหน้านี้ประมาณ 350 กีบ เท่ากับ 1 บาท แต่ตอนนี้ 460 กีบ เท่ากับ 1 บาท ประชาชนลาวกำลังซื้อลดน้อยลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ลง เมื่อคนไทยคนลาวยกเลิกไทยแลนด์พาสจะช่วยให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น
ขณะนี้ทราบว่าราคาน้ำมันใน สปป.ลาว แพงมาก และมีอัตราการขาดแคลนสูง การรอคอยระหว่างการเติมน้ำมันค่อนข้างมาก ช่องว่างระหว่างราคาน้ำมันไทยกับราคาน้ำมันของลาวห่างกันประมาณ 10 บาท ทำให้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการบางรายที่เป็นคนขับรถบรรทุกสินค้าลักลอบนำน้ำมันใส่ถังละ 30 ลิตร ลักลอบนำไปขายที่ประเทศเพื่อนบ้าน ทางศุลกากรได้เข้มงวดและทำการจับกุมได้ประมาณ 2-3 ราย ประมาณ 500-600 ลิตร
ฝากประชาสัมพันธ์ว่าอย่าทำแบบนี้อีกเพราะเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ประกอบกับกองทุนน้ำมันรับภาระเรื่องนี้อยู่ จึงไม่อยากให้มีการลักลอบนำน้ำมันไม่ว่าจะชนิดใดออกต่างประเทศ การนำน้ำมันบรรจุถังทยอยออกไปเหมือนกองทัพมด เจ้าหน้าที่ตรวจพบจะถูกจับกุมแน่นอน