ลำพูน - ติดร่างแหเป็น “บัญชีม้า” โดนอายัดบัญชีกันระนาวจนต้องโร่ขึ้นโรงพักหนีบ่วงคดีกันเป็นแถว ทั้งญาติ เพื่อน คนรู้จัก “นางสาวกบ-อดีตสาวโรงงานนิคมฯ ลำพูน” หัวโจกลวงหมอฟันลงทุนค้าเหล็ก ทองแดง หน้ากากอนามัย สูญเกือบ 70 ล้าน
ความคืบหน้ากรณีนางสาวกบ (นามสมมติ) อดีตสาวโรงงานนิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน ซึ่งเป็นเพื่อนหมอกระต่าย-เจ้าของคลินิกหมอฟัน ย่านตัวเมืองลำพูน สร้างสตอรีตัวละครหลายคน หลอกหมอกระต่าย ลงทุนค้าหน้ากากอนามัย ค้าเหล็ก และค้าทองแดง จนเสียหายกว่า 68 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2562 ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว
และจากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีการโยกย้ายเงินที่ได้มาจากการลวงลงทุนไปบัญชีคนรู้จัก เพื่อนๆ ญาติ กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้สั่งให้อายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทำให้กลุ่มขบวนการโกงครั้งนี้กลัวจะตกเป็นผู้ร่วมกระทำผิด พากันดิ้นเพื่อให้ตัวเองรอดบ่วงคดี ทยอยเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
ล่าสุดวันนี้ (31 พ.ค. 65) นายชัย (นามสมมติ) อายุ 56 ปี และนางอำพร (นามสมมติ) อายุ 55 ปี ที่มีศักดิ์เป็นน้าเขยกับน้าสาว และถูกอายัดบัญชีด้วย เพราะมีข้อมูลการสืบสวนพบการเชื่อมโยงคดีนางสาวกบฉ้อโกงหมอฟันสาว ได้พากันเข้าพบ ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย พรเจิมกุล พนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม
จากการสอบสวนทราบว่านางสาวกบได้ยืมเงินน้าสาวและน้าเขย จำนวน 2 ล้านบาท แต่ยังไม่คืนเงิน ซึ่งน้าทั้งสองก็ทวงถามมาตลอด จนนางสาวกบได้มาหลอกเงินจากหมอกระต่าย 250,000 บาท อ้างว่านำมาชำระเงินค่าประมูลเหล็กจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ช่วงเดือนเมษายน 2564 แต่ความจริงกลับนำเงินดังกล่าวมาชำระหนี้บางส่วนให้ทั้งคู่ ซึ่งอาศัยในหมู่บ้านเดียวกันจนกลายเป็นบัญชีม้าถูกเจ้าหน้าที่อายัดบัญชีธนาคารทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนหนัก
ต่อมานายโด่ง (นามสมมติ) อายุ 30 ปี และนางเจี๊ยบ (นามสมมติ) อายุ 31 ปี แฟนสาว ซึ่งเดินทางมาจาก จ.พิษณุโลก ได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ ลำพูน หลังโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจอายัดบัญชีธนาคารกรณีเป็นบัญชีม้าเช่นกัน
นายโด่งระบุว่าถูกนางสาวกบอ้างชื่อเป็นเจ้าของบริษัทรถร่วม ขณะที่นางสาวเจี๊ยบถูกแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จัดซื้อบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แล้วหลอกให้เหยื่อโอนเงินผ่านจำนวน 150,000 บาท และ 300,000 บาท
จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่านายโด่งทำงานด้านการตลาดกับบริษัทสินเชื่อแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งนางสาวกบได้เป็นลูกค้าและโอนเงินค่างวดผ่านบัญชีธนาคารนายโด่งนานนับปี และทางบริษัทเห็นว่านางสาวกบเครดิตดี จึงเพิ่มวงเงินสินเชื่อขึ้นเรื่อยๆ จนมีความคุ้นเคยกันและขอยืมบัญชีธนาคาร โดยนางสาวกบอ้างว่ามีเพื่อนจะโอนเงินใช้หนี้ให้ และแจ้งให้นายโด่งหักค่างวดจากยอดเงินนี้ หลังจากนั้นจึงขอยืมบัญชีธนาคารนางสาวเจี๊ยบ แฟนสาวนายโด่ง จนบัญชีทั้งสองถูกอายัดในที่สุด
“ระหว่างนั้นผมยังบวชเป็นพระได้เพียง 10 วัน ก็ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาให้ปากคำ จึงตัดสินใจสึกมาทันทีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากร้อนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก”
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นางสาวเลิฟ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี และนายฤทธิ์ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม ได้เข้าให้ปากคำต่อร้อยเวร สภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน กรณีถูกอายัดบัญชีเนื่องจากมีเงินผ่านบัญชี
หลังเจ้าหน้าที่พบว่าห้วงระยะเวลาประมาณ 1 ปี ตั้งแต่ปี 2564-2565 มีเงินจากนางสาวกบโอนผ่ายบัญชีธนาคารทั้งคู่มากถึง 159 ครั้ง รวมเป็นเงิน 29.4 ล้าน นางสาวเลิฟ 24 ล้าน บัญชีนายฤทธิ์ 5.4 ล้าน
อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตนได้รู้จักสนิทสนมกับ น.ส.กบมาตั้งแต่ปี 2560 จึงไว้ใจให้นำเงินผ่านบัญชีของตัวเองเพราะเคยช่วยเหลือกันมาตลอด ก่อนเรื่องจะมาแดงเมื่อนางสาวกบได้หลอกให้นางสาวเลิฟช่วยค้ำเงินกู้นอกระบบจำนวน 3.5 ล้านบาท แล้วหอบเงินหนีไป ปล่อยให้นางสาวเลิฟเจอแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบขู่และต้องใช้หนี้ให้ขณะนี้ยังไม่หมด
แหล่งข่าวนายตำรวจระดับสูงระบุว่า ผู้ที่เป็นบัญชีม้ารับเงินโอนจากหมอกระต่าย มีทั้งผู้ที่ตกเป็นเหยื่อถูกนางสาวกบหลอก และเป็นผู้ที่สมรู้ร่วมคิดกับนางสาวกบ รวม 13 ราย ขณะนี้มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแล้ว 8 ราย มีเงินผ่านบัญชีรวม 40.7 ล้านบาท บางคนทำงานที่เดียวกับนางสาวกบ และมีเงินเข้าบัญชีโดยไม่ทราบที่มาที่ไปนับล้านบาท ซึ่งได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว