ลำพูน - เริ่มชัดแล้ว เงินปริศนาโอนเข้าบัญชีสาวโรงงานลำพูนกว่า 1 ล้านบาท ส่อเป็น “บัญชีม้า” ตกเป็นเครื่องมือขบวนการลวงลงทุนค้าเหล็ก-ค้าทอง ยันหน้ากากอนามัย จนหมอฟัน-เครือญาติสูญร่วม 70 ล้าน หลอกเหยื่อโอนเข้าก่อนตั้งโอนออกอัตโนมัติ
ความคืบหน้ากรณีนางสาวสุจิตตรา ศิริธรรม อายุ 36 ปี ชาว ต.หนองช้างคืน อ.เมืองลำพูน พนักงานสาวโรงงานแห่งหนึ่งในย่านนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือฯ ลำพูน พร้อมด้วยเพื่อนสาว ได้พากันเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเมื่อวานนี้ (25 พ.ค. 65)
โดยระบุว่ามีเงินโอนปริศนาเข้าบัญชีทำให้มียอดเงินมากถึง 1,063,863.15 บาท จนเกรงว่าจะเป็นการโอนผิด หรือเป็นการฟอกเงินของกลุ่มค้ายาเสพติด หรืออาจจะเป็นระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคารทำงานผิดพลาด ด้วยความกลัวที่จะมีความผิดจึงให้เจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบก็พบว่ามีเงินโอนเข้ามาจริง เจ้าหน้าที่ธนาคารจึงแนะนำให้มาแจ้งความไว้
ล่าสุดจากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่าแท้จริงแล้วเงินจำนวนดังกล่าวมีที่มาที่ไปเชื่อมโยงกับนางสาวกบ อดีตพยาบาลประจำโรงงานแห่งหนึ่ง ที่ร่วมหลอกหมอฟันสาวในลำพูนลงทุนค้าเหล็ก-ค้าทองแดง และค้าหน้ากากอนามัย จนทำให้ตัวหมอฟันและญาติ สูญเงิน-ที่ดินไปรวมมูลค่ากว่า 68 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไว้เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา จนเจ้าหน้าที่นำสืบไปสู่การสั่งอายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องเชื่อมในการโอนเงินโยกย้ายเงินทั้งหมด
โดยบัญชีธนาคารของนางสาวสุจิตตรานั้น เชื่อมโยงกับเงินของขบวนการดังกล่าว เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2564 หลังจากนางสาวสุจิตตราได้ไปสมัครงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง บังเอิญเจอกับนางสาวกบ อดีตพยาบาลฯ ที่เข้ามาตีสนิทแล้วอ้างว่าตนต้องใช้เงินเพื่อโอนเป็นค่าสินค้าที่ทำธุรกิจอยู่กับเจ้าของโรงงานแห่งนี้ แต่บัญชีมีปัญหาโอนเงินไม่ได้ จึงขอยืมบัญชีของนางสาวสุจิตตราและขอใช้แอปฯ บัญชีธนาคารในมือถือของนางสาวสุจิตตราโอนเงินแทน ซึ่งนางสาวสุจิตตราก็หลงเชื่อให้ยืมบัญชีและมือถือใช้
ต่อมานางสาวกบ อดีตพยาบาลได้หลอกให้หมอฟันสาว โอนเงินเข้ามาให้จำนวน 1 ล้านบาทเศษ เป็นค่าสินค้า โดยอ้างว่าชื่อบัญชีสุจิตตรา คือผู้ร่วมค้าร่วมลงทุนและเจ้าของโรงงานที่ทำธุรกิจด้วย เมื่อหมอฟันที่ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินแล้ว นางสาวกบ อดีตพยาบาลก็ได้เปิดแอปฯ กดโอนเงินไปให้ “บัญชีม้า” อีกรายหนึ่งก่อน 400,000 บาท พร้อมตั้งค่าโอนอัตโนมัติอีกหลายครั้ง เป็นเงิน 600,000 บาท และทำการโอนอัตโนมัติจนหมดบัญชี
ซึ่งนางสาวสุจิตตราก็ไม่ได้สนใจเพราะปกติในบัญชีตัวเองก็ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว มีเงินเข้าออกนอกจากเงินเดือนเท่านั้น จนกระทั่งตรวจพบการโอนเงินจำนวน 1 ล้านบาท จึงมาแจ้งความดังกล่าว