ปราจีนบุรี - ไม่มาตามนัด! เจ้าบ่าวหนีงานแต่งสาวเมืองปราจีนฯ หลอกจัดพิธีจนเป็นหนี้ 300,000 บาท จนต้องนัดเจรจาเคลียร์ปัญหาที่ สภ.นาดี แต่สุดท้ายเทตามเคยอ้างไม่มีเงินค่าเดินทาง ด้านเจ้าสาวสุดทนแจ้งความเอาผิดทั้งทางแพ่ง-อาญา
จากกรณีที่ น.ส.น้ำทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี สาวโรงงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี พร้อมครอบครัวได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และร้องเรียนต่อสื่อมวลชนหลังถูกแฟนหนุ่มที่คบหาดูใจกันมาตั้งแต่ปลายปี 64 ซึ่งอ้างว่าเป็นทหารยศ จ.ส.อ. และยังเป็นบอร์ดี้การ์ดให้นักการเมืองท้องถิ่น หลอกให้จัดพิธีมงคลสมรสเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา
แต่สุดท้ายเมื่อถึงวันงานกลับไม่มาเข้าร่วมพิธีจนทำให้ตนเองและครอบครัวต้องเป็นหนี้เกือบ 300,000 บาท ซ้ำยังต้องเข้าพิธีเพียงคนเดียวเพื่อให้งานเดินไปได้ตลอดรอดฝั่ง
ส่วนเจ้าบ่าวจอมเท เผยถึงสาเหตุที่ต้องหนีงานแต่งว่าเป็นเพราะยังหาเงินสินสอดบางส่วนตามที่ตกลงกันไว้ไม่ได้ และขอเจรจาเรื่องหนี้สินอีกครั้งในวันที่ 11 พ.ค.นี้ที่ สภ.นาดี จ.ปราจีนบุรีนั้น
วันนี้ (11 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว โดยพบว่ามีเพียงเจ้าสาวผู้เสียหายและครอบครัวที่เดินทางมารอเจรจาค่าเสียหายตามที่เจ้าบ่าวจอมเทได้พูดคุยผ่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาดี ว่า จะขอเคลียร์ค่าใช้จ่ายและเคลียร์ใจในทุกเรื่อง
แต่สุดท้ายเจ้าบ่าวรายดังกล่าวยังมีพฤติกรรมเทไม่เลิกเช่นเคย และเมื่อญาติฝ่ายเจ้าสาวโทรศัพท์ไปหากลับได้รับแจ้งเพียงว่า ยังหาเงินจำนวน 300,000 บาท ไม่ได้จึงไม่กล้ามาพบหน้าเจ้าสาวและครอบครัวอีกครั้ง ซ้ำยังอ้างว่าตนเองอยู่ต่างจังหวัดและไม่มีค่าน้ำมันหรือค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
โดยแม้ทางฝ่ายญาติของเจ้าสาวจะพยายามหว่านล้อมให้เจ้าบ่าวจอมเทเดินทางมาเจรจาและบันทึกประจำวันเกี่ยวกับการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายไว้เป็นหลักฐานโดยไม่จำเป็นต้องนำเงินมาทั้งหมดตามที่แจ้งไว้ก็ได้ และฝ่ายเจ้าสาวยินดีที่จะเดินทางไปรับเพียงแต่ขอให้บอกว่าอยู่ที่ใด แต่เจ้าบ่าวจอมเทก็ยังพยายามบ่ายเบี่ยงและอ้างว่าจะเดินทางมายัง สภ.นาดีในช่วงค่ำ
ด้าน นายวัชพล ศรีอ่วน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาดี เผยว่า ก่อนถึงเวลานัดหมายเจ้าบ่าวรายดังกล่าวยังได้พูดคุยกับตนเองผ่านแอปพลิเคชันไลน์ว่าขณะนี้ไม่สามารถยืมเงินจากผู้ใหญ่ที่นับถือได้เนื่องจากฝ่ายเจ้าสาวผู้เสียหายบอกว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดจึงทำให้เจ้าของเงินเกรงว่าหากตนเองถูกดำเนินคดีแล้วจะไม่สามารถทำงานหาเงินมาใช้คืนได้จึงไม่มีเงินที่จะเดินทางมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายดังกล่าว
ขณะที่เจ้าสาวผู้เสียหายขณะนี้ได้ปรึกษาไปยังชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมแล้ว และได้รับคำแนะนำว่าให้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าบ่าวจอมเทในข้อหาฉ้อโกงโดยการแสดงเป็นบุคคลอื่น ซึ่งในวันนี้ยังได้นำพยานหลักฐานทางอาญาคือ การ์ดงานแต่ง พยานบุคคลร้านทำการ์ด รวมทั้งพยานหลักฐานทางแพ่งที่ประกอบด้วย บิลค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมดแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
