ปราจีนบุรี - สาวโรงงานเมืองปราจีนฯ ร้องสื่อช่วย หลังถูกแฟนหนุ่มอ้างตัวเป็นทหารยศ จ.ส.อ.หลอกให้จัดงานแต่ง แต่สุดท้ายกลับติดต่อไม่ได้ เรียกร้องร่วมจ่ายหนี้เกือบ 300,000 บาท
วันนี้ (5 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจาก น.ส.น้ำทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปีสาวโรงงานแห่งหนึ่งในเขตนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี ว่า ถูก จ.ส.อ.เอก (ขอสงวนนามสกุล) หลอกให้จัดพิธีมงคลสมรสเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายเมื่อถึงวันงานกลับไม่มาเข้าร่วมพิธี
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจากจะทำให้ตนเองและครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียงแล้ว ยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายจากการจัดเตรียมงานทั้งพิธีทางศาสนา และค่าโต๊ะจีนจำนวน 50 โต๊ะ รวมเป็นเงินกว่า 300,000 บาทง
และเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านงานเลขที่ 360 ม.6 บ้านสระจาน ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พบว่า ทางครอบครัวผู้เสียหายยังคงเก็บหลักฐานทั้งดอกไม้ที่ใช้ประดับในพิธีรดน้ำสังข์ ป้ายชื่อเจ้าบ่าว เจ้าสาว รวมทั้งพื้นที่จัดตั้งโต๊ะจีนเพื่อรองรับแขกเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีการจัดเลี้ยงจริง
ส่วน น.ส.น้ำทิพย์ ที่ยังคงอยู่ในอาการเหม่อลอยได้นำภาพถ่ายของตนเองที่ต้องจัดพิธีมงคลสมรสโดยไม่มีเจ้าบ่าวให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมบิลค่าใช้จ่ายต่างๆ และยังบอกอีกว่าตนเองและแฟนหนุ่มซึ่งเป็นทหารยศ จ.ส.อ. ได้คบหาดูใจกันมาตั้งแต่เดือน ธ.ค.2564
โดยตลอดเวลาที่คบกันฝ่ายชายยังอ้างว่าทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้นักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งใน ต.นาดี ด้วย
“ด้วยความที่แต่งกายและพูดจาดีจึงหลงเชื่อว่าเป็นทหารและเป็นบอดี้การ์ดของนักการเมืองท้องถิ่นจริง ประกอบกับตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันฝ่ายชายเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายและเข้ากับคนในบ้านและพ่อแม่พี่น้องได้ดี อีกทั้งยังคอยทำอาหารให้กิน”
และก่อนเกิดเหตุทิ้งงานแต่งตนเองยังเคยบอกกับฝ่ายชายว่าไม่ต้องการจัดงานใหญ่โตเพราะเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แต่แฟนหนุ่มกลับเป็นฝ่ายที่ต้องการให้จัดงานใหญ่โดยอ้างว่าตนเองเป็นทหาร และยังเป็นบอดี้การ์ดของนักการเมืองท้องถิ่นจึงมีคนใหญ่คนโตรู้จักมากมาย
“ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวได้เรียกค่าสินสอดเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท และทองคำหนัก 3 บาท ซึ่งแฟนรับปากว่า จะหาเงินมาให้ทันวันงานและเมื่อเวลา 02.00 น.ของวันงาน แฟนได้เก็บกระเป๋าออกจากบ้านและบอกว่าจะไปนอนกับแม่และญาติที่รีสอร์ตใกล้บ้านซึ่งจองไว้ แต่เราเองต้องแต่งหน้าจึงมอบเงิน 20,000 บาทให้เพื่อนำเป็นค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ”
แต่เมื่อถึงเวลา 7.00 น.ที่จะต้องเข้าพิธีสงฆ์ตนเองได้โทรศัพท์หาแฟนหนุ่มแต่กลับได้รับแจ้งว่ากำลังมีปากเสียงกับแม่เรื่องเงินสินสอดจากนั้นจึงไม่สามารถติดต่อแฟนหนุ่มได้อีกเลย
น.ส.น้ำทิพย์ ยังบอกอีกว่า หลังพยายามติดต่ออยู่นานจนสุดท้ายมั่นใจว่าถูกหลอกรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ต้องทนยืนรับแขกที่มาร่วมงานเพียงคนเดียว ที่สำคัญตอนนี้ครอบครัวต้องเป็นหนี้เกือบ 300,000 บาท จึงขอเรียกร้องให้ว่าที่เจ้าบ่าวออกมารับผิดชอบเป็นการด่วน