เชียงใหม่ - ชาวบ้านกว่า 360 หลังคาเรือนในบ้านขัวโก ตำบลสันผีเสือ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือหวั่นไม่มีน้ำประปาใช้ทั้งหมู่บ้าน เหตุโครงการประปาหมู่บ้านจ่อโดน กฟภ.ตัดไฟ เนื่องจากติดค้างชำระค่าไฟฟ้า 9 เดือน ยอดรวมเฉียด 3 แสนบาท พบความไม่ชอบมาพากลการบริหารงานของคณะกรรมการชุดเดิมที่มีผู้ใหญ่บ้านเป็นประธาน ให้ชาวบ้านโอนเงินจ่ายค่าน้ำเข้าบัญชีส่วนตัวของภรรยา แต่ไม่นำไปจ่ายค่าไฟ อ้างเอาไปจ่ายหนี้เงินกู้นอกระบบที่นำมาพัฒนาปรับปรุงและซ่อมแซมระบบผลิตน้ำประปา แต่ไม่ยอมชี้แจงรายละเอียด จนต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ชาวบ้านกว่า 360 หลังคาเรือน ที่บ้านขัวโก ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กำลังประสบปัญหาและเดือดร้อนอย่างหนัก พร้อมทั้งอยากเรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและแก้ไขปัญหา หลังจากที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้แจ้งว่าจะตัดกระแสไฟฟ้าของประปาหมู่บ้าน เนื่องจากค้างชำระค่าไฟฟ้ามานับปี ยอดเงินรวมทั้งสิ้นเกือบ 3 แสนบาท ซึ่งเบื้องต้นทาง กฟภ.ได้มีการประสานกับเทศบาลตำบลสันผีเสื้อให้ตรวจสอบและหาทางแก้ไขปัญหาก่อนที่จะทำการตัดกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถผลิตน้ำประปาหมู่บ้านจ่ายให้บ้านเรือนประชาชนกว่า 360 หลังคาเรือนดังกล่าวได้
ทั้งนี้ กรณีปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องมาจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านขัวโก ได้ตั้งประปาหมู่บ้านขึ้นมาตั้งแต่ปี 2537 เพื่อใช้ในชุมชน โดยมีคณะกรรมการประปาหมู่บ้านเข้ามาช่วยบริหารจัดการและดูแลต่อเนื่องมานาน จนคณะกรรมการชุดล่าสุดที่มีผู้ใหญ่บ้านเป็นประธานฯ ที่เข้ามาเมื่อปี 2561 ก็บริหางานต่อกันเป็นปกติ มีการเก็บค่าน้ำประปาตามบ้านเรือนเป็นปกติ ชาวบ้านมีน้ำใช้ และจ่ายเงินค่าน้ำทุกดือน ซึ่งแต่ก่อนจ่ายเงินสดผ่านเจ้าหน้าที่ของประปาหมู่บ้าน แต่ช่วงหลังพอเริ่มมีการใช้วิธีโอนเงินกลับพบว่าบัญชีที่รับโอนเงินเป็นบัญชีของภรรยาผู้ใหญ่บ้านที่เป็นประธานกรรมการประปาหมู่บ้านขัวโก แต่ไม่ได้สังหรณ์ใจเนื่องจากยังใช้น้ำประปาได้เป็นปกติ
จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค. 65 เกิดเรื่องขึ้นเมื่อ กฟภ.เชียงใหม่มาขอให้ทางเทศบาลตำบลสันผีเสื้อช่วยทวงเงินค่าไฟของประปาชุมชนดังกล่าวที่ค้างจ่ายมา 9 เดือน เป็นเงินล่าสุด 283,067.82 บาท โดยที่ผ่านมาคณะกรรรมการชุดเดิมที่บริหารนั้น เคยได้รับการประสานติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่ กฟภ.หลายครั้งในการตัดกระแสไฟฟ้าเนื่องจากค้างชำระ แต่มีการนำเงินมาขอผ่อนจ่ายครั้งละ 5,000-10,000 บาทเพื่อขอไม่ให้ตัดกระแสไฟฟ้า ต่อเนื่องมาจนเกิดการค้างชำระนาน 9 เดือน และทาง กฟภ.ให้โอกาสอีกเพียง 1 เดือนในการหาเงินมาชำระ
เทศบาลตำบลสันผีเสื้อได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวโดยสอบถามไปยังกรรมการชุดเก่า ได้รับคำตอบว่าค้างค่าไฟฟ้าจริง แต่ด้วยเงินรายได้ที่รับมาจากค่าน้ำประปาของชาวบ้านนั้นได้นำไปจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบที่ได้ไปกู้นอกระบบมาเพื่อปรับปรุงพัฒนา และซ่อมแซมในการทำประปาหมู่บ้าน แต่ไม่เพียงพอ จนกระทั่งไม่สามารถจ่ายค่าไฟได้ดังกล่าว เมื่อสอบถามไปว่ามีหลักฐานการเก็บเงินค่าน้ำจากชาวบ้าน หรือเอกสารใดๆ ในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง หรือแม้แต่ไปกู้เงินนอกระบบมาหรือไม่นั้น ก็ไม่ได้รับคำตอบหรือนำหลักฐานมาแสดงต่อเทศบาลหรือชาวบ้านได้
ขณะที่เวลานี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทนแล้ว ซึ่งล่าสุดข้อมูลที่ได้รับการส่งต่อจากคณะกรรมการชุดเก่ามีเพียงหลักฐานการเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำกว่า 360 ราย ที่ได้เงินค่าน้ำประปาเดือนล่าสุด 79,601 บาท ส่วนหลักฐานอื่น ทั้งเรื่องของเอกสารรายรับรายจ่าย บัญชีธนาคาร หรือยอดเงินคงเหลือจากการบริหารจัดการไม่มีการมอบให้ ดังนั้นชาวบ้านจึงได้ลงมติให้ตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ต่อคณะกรรมการชุดเก่าเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 65 ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิงแล้ว อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ชาวบ้านยังคงมีความกังวลใจอย่างมากว่าทาง กฟภ.จะตัดไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถผลิตประปาจ่ายให้ชุมชนได้ และชาวบ้านผู้ใช้น้ำจะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
นางสาวแสงหน้า อินต๊ะ ชาวบ้านขัวโกและกรรมการประปาชุมชนชุดใหม่ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ชาวบ้านต้องมาช่วยกันแก้ปัญหา เนื่องมาจากความไม่โปร่งใสในการบริหารงานของกรรมการชุดเก่า ที่ชาวบ้านไม่เคยรับทราบ ทั้งเรื่องของการค้างค่าไฟฟ้านานถึง 9 เดือน รายได้ที่จัดเก็บไปหายไปไหน เข้ากระเป๋าใคร หรือแม้แต่เรื่องของการกู้เงินนอกระบบจำนวน 9 หมื่นบาท ที่อ้างว่านำมาซ่อมแซมและบำรุงรักษาประปาหมู่บ้าน และต้องนำเงินไปจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบจนไม่มีเงินจ่ายค่าไฟฟ้า ก็ไม่ได้มีการขอมติจากชาวบ้านหรือมีที่มาที่ไปที่ได้รับความเห็นชอบจากชาวบ้านด้วย
นอกจากนี้พบว่ารายได้ที่เก็บได้ในเดือนล่าสุดยอดรวมประมาณ 79,000 บาท ซึ่งแต่ละเดือนจะเสียค่าไฟประมาณเดือนละ 30,000 บาท ค่าบริหารจัดการและค่าจ้างคนจดมิเตอร์ คนเก็บค่าน้ำ และคนเฝ้าอีกประมาณ 20,000 บาท ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้วก็จะเหลือกำไรต่อเดือนประมาณ 20,000-30,000 บาท เพื่อนำเข้าบัญชีของประปาหมู่บ้าน เพื่อเป็นค่าบริหารจัดการต่างๆ แต่กลับไม่มีเอกสารใดๆ เลย จึงอยากให้กรรมการชุดเก่าออกมาชี้แจง แต่ก็ไม่เคยมาชี้แจงตามนัดเลยสักครั้ง โดยเวลานี้อยากให้เพียงแต่ไปจัดการชำระค่าไฟฟ้าที่ค้างไว้ก่อนที่ชาวบ้านจะถูกตัดไฟ และไม่สามารถผลิตน้ำประปาจ่ายให้แก่บ้านเรือนได้ เพราะชาวบ้านจะเดือดร้อนหนัก
ด้านนายเจริญ แผ่นฟ้า ชาวบ้านขัวโก บอกว่า ตอนนี้ได้ขอความอนุเคราะห์ไปทางเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองเชียงใหม่ และทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้ลงมาช่วยเหลือในการช่วยแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านในตอนนี้
ส่วนนางเพ็ญสิณีย์ มูลเมือง ชาวบ้านขัวโก ซึ่งใช้ประปาหมู่บ้านมากว่า 16 ปี กล่าวว่า ไม่เคยมีปัญหากับการใช้น้ำเลย ค่าน้ำประปาชาวบ้านก็จ่ายเงิน และได้ใช้น้ำเป็นปกติ โดยไว้วางใจและไม่เคยนึกสงสัยว่าจะเกิดปัญหาเรื่องการเงินกับประปาหมู่บ้าน จนเรื่องมาเปิดเผยขึ้นจากการที่ กฟภ.เชียงใหม่มาทวงค่าไฟฟ้าจึงทราบว่ามีการค้างชำระค่าไฟจำนวนมาก จึงอยากให้ทางจังหวัดมาช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านด้วย