ศูนย์ข่าวขอนแก่น - กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น จับนายทุนเงิน ปล่อยกู้คิดดอกโหด ทั้งรับจำจอดแต่ไม่ยอมให้ลูกค้าไถ่รถคืน พร้อมยึดรถ 6 คัน มอเตอร์ไซค์ 18 คัน แจ้งข้อหาหนักส่งฟ้องศาลดำเนินคดี
วันนี้ (13 พ.ค.) ที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไทยพุทธา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น, พ.ต.อ.ณัฏฐ์ โหม่งพุฒ ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ร่วมแถลงข่าวจับกุมนางประภร หรือภร หงค์คำ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209 หมู่ 25 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น
พร้อมของกลาง ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ 18 คัน รถยนต์ 6 คัน มีทั้งสภาพเก่าและใหม่ และสมุดบัญชีธนาคาร ที่มีชื่อของนางประภร เป็นเจ้าของบัญชี จำนวน 5 เล่ม โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นเข้าจับกุมตัว พร้อมตรวจยึดของกลางได้เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไทยพุทธา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีประชาชนที่นำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของตนเองไปจำนำกับนางประภร ผู้ต้องหา เพื่อนำเงินไปใช้จ่าย ทั้งสองฝ่ายมีการตกลงยินยอมจะจ่ายอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่เมื่อถึงคราวที่เจ้าของรถจะไปไถ่ถอนรถคืน นางประภรกลับไม่ยินยอมส่งคืนรถให้ลูกค้า
แม้ว่าลูกค้าจะจ่ายดอกเบี้ยครบ จนเหลือเฉพาะเงินต้นที่รับมาก็ตาม โดยนางประภรจะบ่ายเบี่ยงและคิดเงินดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถไม่สามารถเอารถกลับคืนได้ จึงได้ร้องเรียนไปยัง พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ก่อนจะสั่งการมายังกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ให้สืบสวนจับกุมนางประภร เนื่องจากการกระทำดังกล่าวมีลักษณะเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และรับจำนำรถโดยไม่ได้รับอนุญาตในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำหมายศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 154/65 ลงวันที่ 12 พ.ค. 2565 เข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 209 หมู่ 25 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อไปถึงพบนางประภรแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านและผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน พร้อมกับแสดงหมายค้นและอ่านให้นางประภรรับฟังจนเข้าใจ จึงยินยอมพาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นภายในบ้าน จากการตรวจค้น พบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านและบริเวณรอบบ้าน จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางในคดี
สอบสวนนางประภรให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับจำนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์จากบุคคลทั่วไปที่รู้จักกัน และนำรถมาซุกซ่อนไว้ภายในบริเวณบ้าน โดยจะคิดอัตราดอกเบี้ยจากการรับจำนำแต่ละคันในอัตราร้อยละ 10 บาทต่อเดือน หักค่าจอดเก็บรักษาตามขนาดของรถ และได้รับจำนำมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 จนถึงปัจจุบัน
ด้าน พ.ต.อ.ณัฏฐ์ โหม่งพุฒ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดมาเป็นของกลาง พบว่ามีทั้งรถเก่าและใหม่ มีทั้งรถที่อยู่ในสภาพเก่าจากการจอดไว้เป็นเวลานาน แต่เมื่อดูป้าย พ.ร.บ.หรือแผ่นป้ายภาษี กลับพบว่ายังไม่หมดอายุ และบางคันเป็นรถใหม่ แต่ไม่มีการติดแผ่นป้าย พ.ร.บ.หรือ แผ่นป้ายภาษี
ทั้งนี้ จะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ให้เข้าตรวจสอบเลขเครื่องตัวรถแต่ละคัน เพื่อให้ทราบแหล่งที่มาว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมแล้วนำมาจำนำหรือไม่ หรือเป็นรถที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่แล้วนำมาจำนำ ก็จะดำเนินคดีตีอทั้งผู้ที่รับจำนำและผู้ที่นำรถมาจำนำในข้อหายักยอกทรัพย์ และรับซื้อของโจรด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานางประภร ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางให้กู้ยืมโดยเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด, ประกอบธุรกิจโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต และประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป