เพชรบูรณ์ - เปิดใจคุณแม่วัยใส พลาดตั้งครรภ์ขณะเรียนออนไลน์ช่วงโควิด-19 ระบาด ได้กลับมาสวมชุดนักเรียนอีกครั้ง เผยทั้งน้ำตา..โชคดีที่พ่อแม่ ครูและเพื่อนๆ เข้าใจ ผอ.ย้ำโรงเรียนคือ “เซฟโซน” ให้กลับเข้าห้องเรียนอีกครั้งและกำลังจะจบ ม.6 ปีนี้
เรื่องราวคุณแม่วัยใส..ท้องในวัยเรียน ที่เกือบทำให้นักเรียนหญิงรายหนึ่งของโรงเรียนโคกปรงวิทยาคม ต.โคกปรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ หลุดจากระบบการเรียน แต่โชคดีที่คนแวดล้อม ทั้งพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ เพื่อนฝูง คอยโอบอุ้ม ไม่ซ้ำเติม จนทำให้เธอสามารถกลับเข้ารั้วโรงเรียน เรียนต่อจนใกล้จบการศึกษาได้อีกครั้ง ถือเป็นบทเรียนสอนสังคมได้เป็นอย่างดี
นางสาวเอ (นามสมมติ) เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า พบความผกผันของชีวิตช่วงที่ต้องเรียนออนไลน์ในสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งช่วงนั้นกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ด้วยการที่เป็นการเรียนการสอนในแบบออนไลน์ ทำให้ตนได้พบกับเพื่อนชายทางโซเชียลฯ และเริ่มคบหากับจนคบกันเป็นแฟน
แต่เหตุการณ์เลยเถิดไปจนกระทั่งตนเองตั้งครรภ์ แต่ก็ยังคงเรียนออนไลน์อยู่ ต่อมาเมื่อถึงเวลาที่ลูกต้องคลอด ตอนนั้นตนก็ยังไม่บอกกับทางครอบครัวเพราะกลัวพ่อแม่ด่า จนกระทั่งวันคลอดจึงบอกให้พ่อกับแม่ทราบ ซึ่งเมื่อพ่อกับแม่ทราบก็ไม่ได้ดุด่า กลับให้การดูแลเป็นอย่างดี
“ไม่ใช่แค่พ่อแม่เท่านั้นที่ให้โอกาส ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู และเพื่อนๆ ก็ไม่ได้ตำหนิ แต่กลับให้กำลังใจอย่างดี ซึ่งแต่เดิมส่วนตัวเกิดความหวาดกลัวว่าจะโดนครอบครัวตำหนิ โดนครูด่า โดนไล่ออก โดนเพื่อนๆ ล้อ กลับกลายเป็นว่าทุกอย่างเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามหมด คือทุกคนพยายามประคับประคองให้หนูผ่านวิกฤตมาได้ และใกล้วันจะประสบความสำเร็จ นั่นคือหนูจะจบการศึกษาในชั้น ม.6 ภายในปีนี้แล้ว”
สำหรับโรงเรียนโคกปรงวิทยาคม เป็นโรงเรียนมัธยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40 จังหวัดเพชรบูรณ์ มีนักเรียนทั้งหมด 250 คน จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6
จุดเด่นอีกอย่างของทางโรงเรียนที่ทำให้นางสาวเอ (นามสมมติ) อยากเรียนต่อและต่อสู้กับเหตุการณ์ที่เป็นจุดวิกฤตของชีวิตมาได้ คือ การร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพวิเชียรบุรี จัดการเรียนการสอนแบบทวิศึกษา หรือมีการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาควบคู่ไปกับการเรียนการสอนในสายสามัญ มีนักศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพครบทั้ง 3 ชั้นปี และมีตัวอย่างของนักเรียนที่จบการศึกษาไปแล้วสามารถประกอบอาชีพด้วยตนเองหรือหางานทำได้ง่าย
และนางสาวเอ (นามสมมติ) ก็เป็นหนึ่งในนักเรียนตามโครงการทวิศึกษา ด้วยความคาดหวังที่ว่าความรู้ด้านอาชีวศึกษาจะทำให้ตนสามารถนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและลูกในอนาคตได้ จึงเดินหน้าต่อสู้กับปัญหา และนำปัญหาเข้าปรึกษากับครอบครัวและโรงเรียน เพราะเห็นว่าสิ่งที่ตนเองกำลังเรียนอยู่มีประโยชน์ในอนาคต
ขณะที่ นายสิทธิโชค ทองโคตร ผู้อำนวยการโรงเรียนโคกปรงวิทยาคม กล่าวว่า ในฐานะผู้บริหารโรงเรียน เข้าใจถึงนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และเข้าใจถึงบริบทของชุมชนและนักเรียนเป็นอย่างดี การจัดการศึกษาที่ตอบสนองต่อชุมชนและผู้เรียนเป็นสิ่งที่ควรกระทำ และการที่โรงเรียนสามารถเป็นที่พึ่งให้นักเรียนได้ในทุกสถานการณ์นับเป็นเรื่องดี
กรณีของนักเรียนรายดังกล่าว ทราบจากการรายงานและติดตามของครูที่ปรึกษา ครูแนะแนว ก็ได้กำชับให้ช่วยเหลือนักเรียนอย่างเต็มที่ และสร้างความเข้าใจกับทุกคนว่าควรเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ที่มีปัญหาเพื่อต่อสู้อุปสรรคให้ได้ โรงเรียนควรเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน และนักเรียนทุกคน ทุกสถานะ ควรได้รับการจัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสม จนกระทั่งจบการศึกษาทุกคน ไม่ว่าปัญหาจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน โรงเรียนพร้อมช่วยเหลือและร่วมกับนักเรียนในการแก้ปัญหา ขอเพียงให้นักเรียนเดินกลับเข้ามาที่โรงเรียนเท่านั้น
