กาญจนบุรี - ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า (กรมอุทยานฯ) เผยสัตว์ป่าไม่ใช่สัตว์เลี้ยง เตือนหยุดล่าหยุดขาย หากจับได้โทษหนักปรับนับล้าน
วันนี้ (29 พ.ค.) นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า (กรมอุทยานฯ) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีสัตว์ป่าอยู่ในการดูแลในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์บึงฉวาก จำนวน 26,065 ตัว ประกอบด้วย สัตว์ป่าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ สัตว์ป่าแก้ไขปัญหาที่ทำความเดือดร้อนให้ประชาชน สัตว์ป่าของกลาง สัตว์ป่าในความดูแลของศูนย์ฯ บึงฉวาก
สัตว์ป่าดังกล่าวเมื่อมาอยู่ในความดูของกรมอุทยานฯ จะได้รับการฟื้นฟูตามกระบวนการเพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ แต่ก็มีสัตว์จำนวนไม่น้อยที่หน่วยงานจะต้องดูแลในกรงเลี้ยงไปจนตลอดอายุขัย ได้แก่ เสือโคร่ง สิงโต จำนวน 189 ตัว เสือดาว จำนวน 27 ตัว เสือไฟ จำนวน 8 ตัว หมีหมา หมีควาย จำนวน 225 ตัว ลิง ชะนี ค่าง จำนวน 2,456 ตัว นางอาย จำนวน 194 ตัว นกกินปลา เหยี่ยว จำนวน 877 ตัว และนาก จำนวน 87 ตัว
สำหรับสัตว์ป่านั้นไม่ใช่สัตว์เลี้ยง หากใครครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากใครมีไว้เพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 29 ประกอบมาตรา 89 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อุทยานฯ สามารถจับกุมกลุ่มนายพรานที่เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานฯ ได้หลายคดี ผู้ต้องหาหลายคน ดังนั้นขอฝากไปถึงผู้ที่กำลังคิดจะล่าสัตว์ป่าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศให้หยุดการกระทำ เนื่องจาก พ.ร.บ.อุทยานฯ ฉบับใหม่ ปี 2562 มีโทษที่รุนแรง หากถูกจับกุมจะต้องถูกดำเนินคดีจำคุกหลายปี และจะต้องถูกปรับเป็นเงินจำนวนมาก