xs
xsm
sm
md
lg

รวบสาวแสบวัย 19! หลอกขายสินค้าออนไลน์ทั่วประเทศ ตามหมายจับ 4 ศาล รับทำมานาน 4 ปี เหยื่ออื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศรีสะเกษ - ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ จับสาวแสบวัย 19 ปี หลอกขายทุเรียนภูเขาไฟและสินค้าออนไลน์ทั่วประเทศ ตามหมายจับ 4 ศาล มีผู้เสียหายจำนวนมาก รับสารภาพหลอกขายสินค้าออนไลน์มานานกว่า 4 ปี มีเงินผ่านบัญชีเพียบ

วันนี้ (25 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณห้องเช่าแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.กันทรลักษ์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ภัทรพล กมล รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ภทรธร ชญาธนานันท์ สว.สส. ร.ต.อ.กฤษฏ์ อนันต์ รอง สว.สส. ร.ต.อ.อนุสรณ์ พันธ์อ่อน รอง สว.สส. ร.ต.อ.จีรศักดิ์ พิมพ์ไชย รอง สว.สส. ร.ต.ท.วินัย จำปาเรือง รอง สว.(ป.) ร.ต.ต.ไพฑูรย์ ศรีวงษ์ รอง สว.(ป.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้นำหมายจับของศาล จำนวน 4 ศาล


ประกอบด้วย 1. ศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ จ.405/2564 ลงวันที่ 7 ก.ย. 2564 ความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์ฯ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใด บุคคลหนึ่งฯ” 2. ศาลจังหวัดฝาง ที่ จ.29/2565 ลงวันที่ 14 ก.พ. 65 ความผิดฐาน “โดยทุจริตหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จฯ” 3. ศาลจังหวัดตะกั่วป่า ที่ จ.87/2564 ลงวันที่ 29 ธ.ค. 2564 ความผิดฐาน “ฉ้อโกงหลอกขายสินค้าที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” 4. ศาลอาญาธนบุรี ที่ 600/2564 ลงวันที่ 24 พ.ย. 2564 ความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ”

ไปทำการจับกุม น.ส.กิ๊ก (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกเฟซบุ๊กใช้ชื่อ 3 ชื่อ คือ JUTHATHIP, บ้านสวนต้นไม้, NAMFON NAMFON หลอกขายสินค้าต่างๆ เช่น หน้ากากอนามัย ทุเรียนภูเขาไฟ และสินค้าต่างๆ ให้แก่ประชาชนทั่วประเทศมานานกว่า 4 ปีแล้ว


เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงห้องเช่าที่ น.ส.กิ๊กหลบซ่อนอยู่ พบว่า น.ส.กิ๊กอยู่กับเพื่อนอีก 2 คน จากการตรวจค้นภายในห้องเช่าพบว่ามียาบ้า จำนวน 7 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องเช่าด้วย ตำรวจจึงได้ตั้งข้อหากับ น.ส.กิ๊กว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ชนิดร้ายแรงไว้ในครอบครองอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และยังเป็นบุคคลตามหมายจับรวม 4 หมาย จึงได้ควบคุมตัว น.ส.กิ๊ก ไปทำการสอบสวนที่ สภ.กันทรลักษ์ ซึ่ง นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ และ พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้ร่วมกันสอบสวน น.ส.กิ๊ก ด้วยตนเอง


น.ส.กิ๊ก (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาวบ้าน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ให้การรับสารภาพว่า ตนเริ่มเปิดขายสินค้าออนไลน์ทางเฟซบุ๊กมาตั้งแต่ปี 2562 โดยเริ่มจากการขายมาสก์ หรือหน้ากากอนามัยจากประเทศจีน โดยจะขายลังละ 7,000 บาท เมื่อมีคนสั่งซื้อจำนวน 1 ลัง ราคา 7,000 บาท ตนจะได้กำไรลังละ 200 บาท และจะส่งเงินจำนวน 6,800 บาท ไปให้พ่อค้าที่มีสต๊อกสินค้าไว้ผ่านทางไลน์กลุ่ม เพื่อให้พ่อค้าส่งสินค้าไปให้ผู้ที่สั่งซื้อ ซึ่งช่วงแรกๆ มีการส่งสินค้าให้ผู้ที่สั่งซื้อตามปกติ แต่ว่าต่อมาเมื่อมีผู้สั่งซื้อและส่งเงินมาให้ตนทางเป๋าตังแล้ว ปรากฏว่าทางพ่อค้าไม่ได้ส่งสินค้าไปให้ผู้ที่สั่งซื้อ ทำให้ตนซึ่งเป็นผู้รับเงินซื้อสินค้ามาแล้วโดนลูกค้าทวงถามอย่างต่อเนื่องและจำนวนผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้น ตนจึงได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ แต่เนื่องจากว่าตนไม่มีที่ปรึกษาจึงทำได้เพียงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อพ่อค้าที่สต๊อกสินค้าแล้วไม่ส่งให้ลูกค้าแต่อย่างใด


น.ส.กิ๊ก (นามสมมติ) กล่าวต่อว่า ต่อมาตนทราบว่ามีการส่งหมายเรียกมาที่บ้านของตนจำนวนมาก และพนักงานสอบสวนหลายแห่งได้โทร.มาหาตนเพื่อให้รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร จึงได้ใช้วิธีโพสต์จำหน่ายสินค้าในเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่ออื่นต่อไป โดยมีชื่อของลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าแล้วยังไม่ได้รับสินค้าอยู่ในกลุ่มสมาชิกด้วย เมื่อมีผู้สั่งซื้อสินค้าและโอนเงินเข้ามา ตนจะนำเอาเงินที่ได้รับมาส่งไปให้ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้ามาก่อนแต่ไม่ได้รับสินค้า เพื่อต้องการให้ลูกค้าที่ไปแจ้งความเอาไว้แล้วให้ไปถอนแจ้งความ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา

โดยนำเอาเงินที่ได้รับมาไปหมุนเวียนแบบนี้ ต่อมาปี 2563-2564 ตนได้จำหน่ายทุเรียนหมอนทองด้วย แต่เนื่องจากว่าสมาชิกเฟซบุ๊กเห็นว่าตนอยู่ที่ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟ ทำให้คิดว่าทุเรียนหมอนทองที่ตนเปิดขายเป็นทุเรียนภูเขาไฟ ทำให้มีคนโอนเงินมาสั่งจองทุเรียนจำนวนมาก ซึ่งตนก็ไม่ได้ส่งทุเรียนไปให้ เพราะต้องนำเอาเงินไปหมุนโอนให้ลูกค้าที่ยังเป็นหนี้อยู่เพื่อเป็นการใช้หนี้ ทำให้มีผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยจากการที่ตนได้ตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารแล้ว ปรากฏว่ามีเงินผ่านบัญชีธนาคารของตนมากกว่า 300,000 บาท ซึ่งตนได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา


พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นจะมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความข้อหาฉ้อโกงในการจำหน่ายสินค้า ซึ่งมีผู้เสียหายทยอยเข้ามาแจ้งความเรื่อยๆ และมีต่างพื้นที่ได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามซึ่งพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่เกิดเหตุจะได้มีการอายัดตัวผู้ต้องหาต่อไป โดยผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ ซึ่งเบื้องต้นเราจะต้องดูมูลค่าของความเสียหายเสียก่อน โดยแต่ละรายความเสียหายประมาณรายละ 1,000-2,000 บาท

นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนทุกท่านว่าการหลอกลวงทางออนไลน์ปัจจุบันมีหลายรูปแบบ โดยเฉพาะมีการสื่อสารสร้างความเชื่อถือและไม่มีสินค้าให้ กรณีของผู้ต้องหารายนี้ประเด็นคือเกิดเหตุหลายพื้นที่ทั่วประเทศมีการแจ้งมาว่าที่ อ.กันทรลักษ์ทุเรียนกำลังออกมีการใช้ชื่อของผู้ต้องหารายนี้เปิดบัญชีติดต่อซื้อขายและไม่มีการส่งมอบทุเรียนให้ แต่จากการสอบถามข้อมูลจากผู้ต้องหารายนี้ก็ได้รับทราบว่า เคยรับจองทุเรียนเมื่อปีที่แล้วแต่ว่าปัจจุบันก็ยังไม่มีการซื้อขายทุเรียนทางออนไลน์


แต่หลักฐานทางพื้นที่ต่างๆ ที่ส่งมาที่ อ.กันทรลักษ์ เราได้รับทราบ จึงได้นำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษเพื่อรับทราบเบื้องต้น และได้ส่งข้อมูลให้กับทาง ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้ตรวจสอบเนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏแจ้งมาว่าผู้ที่ทำการโพสต์เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าทุเรียนอาศัยอยู่ที่ อ.กันทรลักษ์ เราจึงได้นำหลักฐานต่างๆ มาประมวลผล จนสุดท้ายท่าน ผกก.สภ.กันทรลักษ์ได้สืบสวนจนทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ในที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น