ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจชุดสืบสวนชุมแพบุกรวบ ประกายดาว ฮอนเนอร์มวยไทย ผันตัวค้ายา พร้อมของกลาง 174,000 เม็ด ผู้ต้องหาสารภาพไม่ได้ชกมายไทยมากว่า 2 ปี ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ทำให้ไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว
มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 22.00 น.คืนที่ผ่านมา (24 พ.ค.) นางสุภาวดี ศรีสุขวัฒน์ นายอำเภอชุมแพ จ.ขอนแก่น ในนาม ประธาน ศป.ปส.อำเภอชุมแพ นายไพศาล วงษ์ซีวะสกุล ปลัดอาวุโสอำเภอชุมแพ นายธวัชชัย ทวีผล ปลัดอำเภอชุมแพ ร่วมกับ พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.ปรัชญามาศ ไชยสุระ รอง ผกก.สส.สภ.ชุมแพ พ.ต.ท.ศิวัช โพธิสิงห์ สว.สส.สภ.ชุมแพ ร.ต.อ.ศรัญย์ แสนหล้า ร.ต.อ.ณัฐสิทธิ์ พันธ์ศรี รอง สว.สส.สภ.ชุมแพ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายดาว (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาวบ้านหนองขาม ต.หนองไผ่ อ.ชุมแพ นักมวยเจ้าของฉายา ประกายดาว ฮอนเนอร์มวยไทย พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 174,000 เม็ด
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายดาวได้นำยาบ้าจำนวนมากมาเก็บไว้ที่บ้านพักเพื่อรอจำหน่าย เมื่อไปถึงพบนายดาวอยู่ภายในบ้านท่าทางมีพิรุธคล้ายคนเสพยาเสพติด จึงได้เข้าตรวจสอบ หลังจากนั้นนายดาวจึงยอมรับสารภาพว่าได้เสพยาบ้าจริง และยอมรับอีกว่ามียาบ้าที่รอจำหน่ายอยู่เป็นจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ในห้องพัก ภายในกระเป๋าเดินทางในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นกระเป๋าจำนวน 2 ใบ พบมียาบ้าบรรจุห่อนับรวมได้ 174,000 เม็ด จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดและควบคุมตัวนายดาว ผู้ต้องหามาที่ สภ.ชุมแพ เพื่อทำการสอบสวนขยายผล
นายดาว ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพเป็นนักมวยไทย มีฉายาว่า ประกายดาว ฮอนเนอร์มวยไทย ชกมวยมากว่า 30 ครั้ง ได้รับค่าจ้างจากการชกมวยเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงชีพ ต่อมาประสบกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ขึ้นชกมวยไม่ได้นานกว่า 2 ปี ทำให้ไม่มีเงินใช้จ่าย จึงตัดสินใจ ติดต่อคนรู้จักรับยาบ้ามาจำหน่าย สำหรับยาบ้าจำนวนนี้ นายเจได้ติดต่อให้ตนไปรับมาเก็บพักไว้
โดยจะนำมาวางไว้ริมถนนมลิวัลย์ กม.ที่ 9 บ้านโนนชาด หมู่ที่ 4 ต.โนนหัน เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะโทร.บอกให้ตนเดินทางออกไปรับมาเก็บไว้ที่บ้าน
นายดาวบอกอีกว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของนายท็อป คนภูกระดึง รู้จักกันเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ร้านอาหารในเขต อ.ชุมแพ และรับปากจะมารับยาบ้าภายในวันสองวันนี้ ซึ่งตนได้รับจ้างขนยามาพักไว้ที่บ้านเป็นเงิน 19,000 บาทและยาบ้าอีกจำนวน 800 เม็ด ตนได้ทำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกทำเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ได้รับค่าจ้าง 10,000 บาท
สำหรับยาบ้าที่ได้เป็นค่าจ้างจะนำมาขายในราคา 3 เม็ด 100 บาท ส่วนเงินที่ได้จากการรับยามาพักก็จะนำมาใช้จ่ายส่วนตัวทั่วไป เที่ยวเตร่และเล่นการพนันออนไลน์
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลได้คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป