ตำรวจ สภ.บ้านเป็ดป้องศักดิ์ศรี! แจ้งความสองแม่ลูกไลฟ์สดดูหมิ่น

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจ สภ.บ้านเป็ดแจ้งข้อหาสองแม่ลูกดูหมิ่นเจ้าพนักงาน จากเหตุขับกระบะแหกด่านตรวจ ทั้งถ่ายคลิปไลฟ์สดด่าและดูหมิ่นตำรวจขณะตรวจค้นรถยนต์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ล่าสุดตำรวจเตรียมออกหมายเรียกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา


จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “พระจันทร์ ลายกระต่าย” เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผบ 9710 ขอนแก่น ขับรถแหกด่านตรวจกวดขันวินัยจราจร ในพื้นที่รับผิดชอบ สภ.บ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจงานจราจรจะขับรถไล่ติดตามและเข้าตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว และปรากฏชายวัยรุ่นที่เดินทางมาพร้อมกับมารดา ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุชาติ โคตรฉัยยา อายุ 29 ปี คนขับรถยนต์กระบะคันก่อเหตุ และนางสมจิตร ผิวนอก อายุ 53 ปี ทั้งสองอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 22 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้หยิบโทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปไลฟ์สดขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน

นายสุชาติ และนางสมจิตรได้กล่าวหาว่าตำรวจมาค้นรถทั้งที่ตั้งด่านจราจรเฉยๆ ไล่จับรถตนอย่างกับจับยาบ้า พูดจาไม่ดี รังแกประชาชน ตนแค่แหกด่านจราจร เสียเวลาทำมาหากิน ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาดำเนินคดี ก่อนที่นายสุชาติและนางสมจิตรจะนำกระเช้าดอกไม้มอบให้ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด เพื่อขอโทษ โดยมีตำรวจจราจรวันเกิดเหตุร่วมรับช่อดอกไม้ดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา

ต่อมา เฟซบุ๊ก “พระจันทร์ ลายกระต่าย” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “แค่มันถือกระเช้าแล้วมากล่าวคำขอโทษก็จบหรือครับ ศักดิ์ศรีของลูกน้องถูกเหยียดขนาดนี้ยังไม่คิดปกป้อง วันนี้ผมจะให้ฝ่ายกฎหมายไปกล่าวโทษที่ท่านละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ #แหกด่านบ้านเป็ด” ขณะเดียวกันชาวเน็ตได้แคปฯ หน้าจอการตอบคอมเมนต์ของนายอภิสรา ในกลุ่มที่ชื่อว่า “ขอนแก่นมีด่านบอกด้วย แจ้งข่าว” ระบุว่า “ก็โดนจับไปบ้านเป็ด คุยกับผู้กอง คนบ้านเดียวกัน แกก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ปล่อยกลับบ้าน” เมื่อถามว่าเสียค่าปรับอะไรไหม เจ้าตัวตอบว่า “ไม่เสียครับ”

นอกจากนี้ ยังมีภาพที่นายอภิสราถ่ายรูปคู่กับตำรวจจราจรที่ขับรถ ซึ่งคาดว่าไปที่โรงพัก ระบุว่า “คนจับกับคนโดนจับ ตอนจับก็จะโหดๆ หน่อย สนิทกันแล้ววันหลังไม่ต้องไล่นะ มีคนเดียวชอบแหก” ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในทำนองว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้สำนึกผิด ทั้งกลับแสดงความเห็นราวกับว่า ตนเองมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นๆ รวมทั้งมีการโจมตีว่า เหตุใดผู้บังคับบัญชาระดับสูงในพื้นที่เกิดเหตุ จึงไม่ปกป้องศักดิ์ศรีของตำรวจผู้ปฏิบัติงานใต้บังคับบัญชา

ล่าสุดวันนี้ (20 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ได้เดินทางมาประชุมติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นร่วมกับ พ.ต.ท.ประเสริฐ ตุ้มฉิม รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.บ้านเป็ด, พ.ต.ท.สุทัศน์ ไพบูลย์ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.บ้านเป็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจงานจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ


พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลา 11.50 น. วันที่ 17 พ.ค. 65 โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ดได้ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรที่ถนนมะลิวัลย์ ต.บ้านทุ่ม อ.เมืองขอนแก่น ได้มีผู้ขับขี่รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผบ 9710 ขอนแก่น เข้ามายังจุดตรวจ

เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีการดัดแปลงโหลดเตี้ยและไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลัง จึงเรียกให้ผู้ขับขี่หยุดรถ แต่ผู้ขับขี่กลับไม่ยอมหยุดรถ และได้ขับรถแหกด่านหลบหนีไป โดยขับมุ่งหน้าไปตามถนนมะลิวัลย์เข้าเขต อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ห่างจากจุดตั้งด่านตรวจประมาณ 8 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่ารถคันดังกล่าวมีพิรุธ น่าสงสัยว่าอาจมีสิ่งผิดกฎหมายภาย จึงขับรถไล่ติดตามไป ก่อนจะสั่งให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นภายในรถคันดังกล่าว นางสมจิตร ใช้กิริยาไม่สุภาพและกล่าวถ้อยคำดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยหลังจากตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวสองแม่ลูกมาดำเนินคดีตามความผิดที่เกิดขึ้น โดยได้แจ้งข้อหากับนายสุชาติ คนขับรถ ในข้อหา ไม่ปฏิบัติตามสัญญาณจราจรที่เจ้าพนักงานจราจรแสดงให้ปฏิบัติข้างหน้า ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 24, 152 แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และข้อหาไม่แสดงใบอนุญาตขับรถและสำเนาภาพถ่ายใบคู่มือการจดทะเบียนรถ ตามมาตรา 42, 66 แห่ง พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 และข้อกล่าวหาอื่นที่เกี่ยวข้อง


อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเอาผิดผู้ก่อเหตุ ทำนองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับบังคับบัญชาไม่ปกป้องศักดิ์ศรีของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน ปล่อยให้ผู้ก่อเหตุด่าทอตำรวจด้วยถ้อยคำหยาบคาย และตำรวจยอมความเพียงเพราะสองแม่ลูกนำกระเช้ามาขอโทษเท่านั้น

พ.ต.อ.ธนาวัชรกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติงานตามกฎหมายในวันเกิดเหตุได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเป็ด ในฐานะเจ้าทุกข์แล้ว โดยได้ร้องทุกข์กล่าวโทษนางสมจิตร ในฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 โดยพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้นางสมจิตรเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป