เชียงใหม่ - ตำรวจบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนกลุ่มใหญ่ สุมหัวคนท้องถิ่นเช่าเหมารีสอร์ตหรูเมืองฝาง ปักหลัก ฉกรูปสาวสวย-ปลอมโปรไฟล์ ลวงเหยื่อทั้งไทย-เทศ เน้นชาวญี่ปุ่น ลงทุนออนไลน์
วันนี้ (19 พ.ค. 65) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร) พร้อมตำรวจภูธรภาค 5-ชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมแถลงข่าว กรณีบุกทลายขบวนการหลอกลงทุนออนไลน์ จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน (HYBRID SCAM) 24 คน ในรีสอร์ตหรูแห่งหนึ่งในพื้นที่ สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลางจำนวน 6 รายการ
ดังนี้ 1. เครื่องคอมพิวเตอร์กับโน้ตบุ๊ก 10 เครื่อง 2. หน้าจอคอมพิวเตอร์ 20 เครื่อง 3. ซีพียูคอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง 4. โทรศัพท์มือถือ-ซิมการ์ดพร้อมใช้งาน 244 เครื่อง 5. ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ 6 อัน 6. แฟลชไดรฟ์ 2 อัน
การจับกุมมีขึ้นตามข้อสั่งการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่ได้มอบหมายให้ ศปชก.ตร.เร่งสืบสวน กวาดล้างขบวนการคนร้ายต่างชาติในพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ค. 2565 เป็นต้นมา ซึ่งชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ ได้สืบสวนหาข่าวจนพบพฤติการณ์คนไทยและคนต่างชาติ รวมตัวเช่าที่พักแต่มีพฤติกรรมที่เป็นพิรุธผิดปกติ
จากนั้นจึงได้นำหมายค้นศาลจังหวัดฝาง นำทีมชุดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แม่สูน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ พบผู้ต้องหาทั้ง 24 คน (ชาย 22 คน และหญิง 2 คน) เป็นคนสัญชาติจีน 20 คน นอกนั้นเป็นคนไทยในพื้นที่ 4 คน กำลังทำงานผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ
โดยพบว่ามีการสร้างบัญชีผู้ใช้ปลอมในแอปพลิเคชันหาคู่ต่างๆ และแอปพลิเคชันไลน์ เป็นชื่อที่สมมติขึ้นมาเอง และใช้ภาพโปรไฟล์หญิงสาวสวยที่หามาจากช่องทางออนไลน์ เพื่อสนทนาหลอกลวงเหยื่อ ทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น
ก่อนสนทนาหว่านล้อมหลอกให้เหยื่อตกหลุมรักหรือไว้วางใจ แล้วจะวางกลอุบายให้เหยื่อร่วมลงทุน โดยให้เปิดบัญชีในแอปพลิเคชัน metatrader เพื่อเข้าสู่ขบวนการหลอกเอาเงินมาลงทุน โดยมีทีมที่สร้างข้อมูลบนแพลตฟอร์มที่สร้างปลอมขึ้นมา หลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีการเทรดเงินได้จริง เมื่อเหยื่อหลงโอนเงินลงทุน ก็ตัดขาดการติดต่อ สูญเสียเงินฟรี
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าพวกตนจะได้ค่าตอบแทนจากการทำงานดังกล่าวจำนวน 25,000-35,000 บาทต่อเดือน และได้มีการเช่าเหมาพักอาศัยในรีสอร์ตที่เกิดเหตุ โดยจะมารวมตัวกันทำงานที่อาคารออฟฟิศด้านหลังที่พัก ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์ และเวลา 12.00-17.00 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเป็นซ่องโจร เพื่อร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในส่วนผู้ต้องหาชาวจีนว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด”
พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) กล่าวว่า ได้กำชับให้ ศปชก.ภ.5 และ ภ.จว.เชียงใหม่ เร่งขยายผลให้ถึงกลุ่มนายทุน เพื่อดำเนินการจับกุมแบบขุดรากถอนโคนต่อไป
ส่วนผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 20 คน ได้สั่งการให้ตรวจสอบการเข้าออกราชอาณาจักร และการขอวีซ่าด้วย เพื่อตรวจสอบเส้นทางความเชื่อมโยงของผู้ต้องหาและเครือข่ายขบวนการที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.วิสนุยังได้เปิดเผยอีกว่า ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงใหม่ เชียงราย เป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการแฝงตัวของคนร้ายข้ามชาติ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งในช่วงเดือน มิ.ย.นี้จะจัดเสวนาเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านคนร้ายข้ามชาติในพื้นที่ ภ.5 และเจ้าหน้าที่ ศปชก.ตร.ส่วนกลาง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าว และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการป้องกันปราบปรามรองรับการเปิดประเทศของรัฐบาลต่อไป