ลำพูน - ชาวบ้านเห็นพฤติกรรมน่าสงสัย แจ้ง จนท.สกัดจับคาด่านตรวจวังสวนกล้วย แม่ทา..คนขับเทรลเลอร์ขนสินค้าห้างดัง ลงของเสร็จขาล่องแอบรับงานแก๊งค้าแรงงานเถื่อน แวะรับต่างด้าวซุกคอนเทนเนอร์จากลำพูน 3 จุด รวมร่วมร้อย เตรียมส่งวังน้อย อยุธยา
พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ โกมลสวรรค์ สารวัตรสอบสวน สภ.แม่ทา จ.ลำพูน รับมอบตัวต่างด้าวจำนวน 72 ราย แยกเป็นชาย 41 ราย (รวมเด็กผู้ชาย 2 ราย) หญิง 21 ราย (รวมเด็กหญิง 2 ราย) พร้อมด้วยนายวินัย รอดเมือง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ที่ 3 ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โชเฟอร์ขับรถเทรลเลอร์บรรทุกสินค้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้ขับขี่นำแรงงานต่างด้าวซุกซ่อนมากับรถ หลังเจ้าหน้าที่ด่านตรวจวังสวนกล้วยสกัดจับได้ช่วงหัวค่ำ (17 พ.ค. 65) ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมแรงงานต่างด้าวทั้งหมดไว้ที่สนามหน้า สภ.แม่ทา ก่อนชั่วคราว จากนั้นได้รายงานให้ พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.ภ.ลำพูน แล้วประสานนายสมาน กองแก้ว นายอำเภอแม่ทา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแม่ทา ให้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจ ATK ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง กระทั่งไม่พบแรงงานต่างด้าวติดเชื้อโควิด จึงแยกนำตัวฝากขังที่ สภ.แม่ทา สภ.ทากาศ และ สภ.นิคมอุตสาหกรรม
จากการสอบสวนนายวินัย ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่ารับจ้างขนแรงงานต่างด้าวทั้ง 72 คน ในราคา 3 หมื่นบาท จากจุดนัดหมายพื้นที่จังหวัดลำพูน 3 จุด คือ จุดที่ 1 บริเวณถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง ช่วงใกล้ปั๊มน้ำมันดอยติ จุดที่ 2 ใกล้ศาลากลางลำพูน (ใหม่) และจุดที่ 3 หน้าสุสานบ้านจำขี้มด โดยมีเป้าหมายนำส่งที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งระหว่างทางจะมีรถนำคอยบอกทาง แต่สุดท้ายก็ถูกสกัดจับ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจวังสวนกล้วย เขต สภ.แม่ทา เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบรถบรรทุกเทรลเลอร์บรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ติดป้ายห้างสรรพสินค้าชื่อดัง จอดรับคนจำนวนมากหลายๆ จุดตลอดเส้นทางอย่างน่าสงสัย จึงทำการตรวจสอบที่ด่านตรวจขณะรถวิ่งมาถึง เมื่อเปิดเทรลเลอร์ดูก็พบแรงงานต่างด้าวอยู่บนรถจำนวนมาก จึงควบคุมตัวคนขับและแรงงานต่างด้างทั้งหมดไว้ดังกล่าว
นายทู หนึ่งในแรงงานต่างด้าวซึ่งสื่อสารภาษาไทยได้ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นชาวเผ่าปะโอ อาศัยอยู่เมืองตองจี ประเทศเมียนมา เคยเข้าๆ ออกๆ ประเทศไทยประมาณ 8 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งจะจ่ายเงินให้นายหน้าหรือผู้นำพา ประมาณ 2-3 หมื่นบาท
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ตนรวมทั้งเพื่อนชนเผ่าเดียวกัน รวมถึงชาวกะเหรี่ยง ไทใหญ่ และชนเผ่าอื่นๆ จ่ายเงินให้ผู้นำพาไปแล้วตั้งแต่ 2-3 หมื่นบาท ออกเดินทางมากับผู้นำพาจากหมู่บ้านได้ 5 วันแล้ว ตั้งใจจะไปหางานทำที่กรุงเทพฯ เนื่องจากในหมู่บ้านแห้งแล้งอดอยาก สินค้าขึ้นราคาหลายเท่าตัว บางคนที่มาจากหลายเมืองก็กลัวถูกจับไปเป็นทหารเนื่องจากสถานการณ์ในประเทศเมียนมาบางเมืองยังไม่สงบ แต่ก็ถูกจับกุมเสียก่อน ไปไม่ถึงกรุงเทพฯ
ซึ่งหลังจากผ่านขั้นตอนทางด้านกฎหมายของประเทศไทยแล้วก็คงต้องกลับไปทำงานที่ประเทศเมียนมาเพื่อหาเงินกลับมาทำงานที่ประเทศไทยอีก ถึงแม้จะถูกจับบ่อยๆ แต่ก็ต้องเสี่ยงดวงกันมา อย่างไรก็จะกลับมาอีกแม้จะเสียเงินก็ตาม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลการติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ และผู้ที่ขับรถนำทาง ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้
