กำแพงเพชร/เชียงราย - ตำรวจเมืองกล้วยไข่เฝ้าสกัดบนเส้นทางสายรอง..จับอีก 2 คันรถตู้ แรงงานต่างด้าวจ่ายหัวละ 25,000 บาท ลอบเข้าชายแดนตากเดินทะลุเข้าจุดนัดกำแพงเพชรก่อนขนเข้ากรุง ด้าน กกล.ผาเมืองรวบพม่าหนีเข้าเมืองรายวัน
วันนี้ (10 พ.ค. 65) พล.ต.ต.พิพัฒน์ ชุ่มมณีกุล ผบก.ภ.กำแพงเพชร พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก. พ.ต.อ.ธนัท แสงตันชัย ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร พ.ต.ท.นิคสัน แสนเตปิน รอง ผกก.ปป. ได้รับรายงานว่าจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวผ่านจังหวัดกำแพงเพชร จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่สืบสวนและเฝ้าระวังจุดเสี่ยงคือถนนสายรอง
กระทั่งเวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมรถตู้เช่า 2 คัน เป็นรถตู้สีฟ้า ป้ายเหลือง ทะเบียน 30-0959 สมุทรสาคร และรถตู้สีขาวป้ายเหลือง เลขทะเบียน 30-0936 สมุทรสาคร ที่บรรทุกแรงงานต่างด้าวทั้งชายและหญิงมาคันละ 29 คน รวมทั้งหมด 58 คน
พร้อมควบคุมคนขับรถ 3 คน ประกอบไปด้วย นายปราโมทย์ อายุ 50 ปี ชาว ต.ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร นายผ่านพงษ์ อายุ 50 ปี ชาว ต.อินทร์แปลง อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร และนายญรรยงฮ์ อายุ 50 ปี ชาว ต.วังพัฒนา อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ก่อนที่ตรวจคนเข้าเมืองได้มาจัดลำดับให้เข้ารับการตรวจ ATK จากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกำแพงเพชรอย่างเคร่งครัดกันทุกคน ก่อนที่จะนำตัวเข้าพวกกลุ่มที่ห้องควบคุมภายใน สภ.เมืองกำแพงเพชร
พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า ทางตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชรได้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส 2) ที่เคยมาควบคุมคดีรถขนต่างด้าวประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำมาทิ้งที่พื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร 3 ศพ
กรณีนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว จึงได้เฝ้าระวังตามถนนสายรองจากถนนพหลโยธิน บ้านนาโบสถ์ อ.วังเจ้า-บ้านหนองแดน อ.โกสัมพีนคร และบ้านปางขนุน ต.นาบ่อคำ อ.เมืองกำแพงเพชร กระทั่งพบรถตู้ป้ายเหลืองซึ่งวิ่งผิดปกติในยามค่ำคืนในเส้นทางดังกล่าว จนสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้าเมืองและคนขับรถ
เบื้องต้นทราบว่าแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ถูกเคลื่อนย้ายมาจากจังหวัดตากและเดินเท้าผ่านหมู่บ้านมาถึงจุดนัดพบเพื่อขึ้นรถตู้ จากนั้นรถตู้จะนำพาไปส่งที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี แล้วจะมีนายหน้ามารับต่อไปอีกทอดหนึ่ง โดยนายหน้ามีทั้งไทยและคนบ้านเดียวกัน คิดหัวละ 25,000 บาท ส่วนรถตู้ก็จะได้รับค่าจ้างหัวละ 2,000 บาท
สำหรับคนขับทั้ง 3 คนจะได้ตั้งข้อหาให้ความช่วยเหลือนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายและฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดโดยผิดกฎหมายในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่วนต่างด้าวจะถูกดำเนินคดีแอบลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและฝ่าฝืนคำสั่งของจังหวัดในช่วงการแพร่ระบาดอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายและผลักดันกลับประเทศต่อไป
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย.ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ที่ออกปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณช่องทางนาแก หมู่ 11 ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยจึงขอทำการตรวจค้นผลการปฏิบัติพบว่าทั้งหมดเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้งหมด 6 คน แบ่งเป็นชาย 4 คน และหญิง 2 คน
จากการซักถามเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้เดินทางมาจากเมียนมาผ่านช่องทางธรรมชาติผิดกฎหมาย เพื่อจะไปหางานทำในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเสียค่าใช้จ่ายให้ขบวนการนำพาคนละ 24,000 บาท
เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้นำผู้ต้องหาส่ง สภ.แม่สาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
