พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจทางหลวงอยุธยาไล่ล่าปราบปรามจับกุมอย่างต่อเนื่อง ขบวนการขนแรงงานต่างด้าว รวบได้อีก 89 ราย พร้อมรถยนต์ของกลาง 3 คัน คนขับทิ้งรถพร้อมแรงงานหลบหนี 1 คัน
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวและผู้นำพาบนเส้นทาง หลัก และเส้นทางรองในพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน จากการสืบสวนทราบว่า ขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวดังกล่าวน่าจะใช้เส้นทางสายรองลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน
จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) พ.ต.ต.ชนะ ขำทอง สว.ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี) บูรณาการกำลังร่วมกับ ตม.จว.สิงห์บุรี ตม.จว.อ่างทอง และตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี สภ.เมืองสิงห์บุรี ตรวจสอบเส้นทางสายรองบริเวณรอยต่อ จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง
จนกระทั่งล่าสุด วันนี้ (14 พ.ค.) เวลาประมาณ 04.00 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง ทล.309 กม.95-96 พบรถต้องสงสัยจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วจึงได้เรียกให้หยุด แต่รถยนต์ทั้ง 3 คันไม่หยุด จึงได้ไล่ติดตาม โดยสามารถสกัดจับกุมรถยนต์คันที่ 1 และ 2 ได้ริมถนน กม.95-96 ถ.อ่างทอง-สิงห์บุรี ทล.309 ตำบลบางพุทรา อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
และได้จับกุมรถยนต์คันที่ 3 ได้ที่ริมทางสาธารณะซอยวัดบ้านกลาง ตำบลบางเจ้าฉ่า อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนำรถวิทยุขับติดตามตั้งแต่ที่เกิดเหตุในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี จนถึงเขต อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ระยะทางประมาณ 50-60 กม.จึงสามารถจับกุมได้
โดยรถคันที่ 1 รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา ทะเบียน 3 ฒฐ 4654 กรุงเทพมหานคร มี นายไตรภพ หรือยุ สุขศรี อายุ 28 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร เป็นคนขับ พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า 26 คน คันที่ 2 รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน 1 ฒฬ 4071 กรุงเทพมหานคร มีนายนรากร หรือกล๊อฟ สมบัติดี อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม เป็นคนขับ พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า 32 คน คันที่ 3 รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว ทะเบียน 1 ฒร 1670 กรุงเทพมหานคร คนขับหลบหนี พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า 31 คน รถทุกคันมีการเจาะรูระบายอากาศด้านบนเพื่อให้แรงที่มาในรถได้หายใจสะดวกและปิดบังเจ้าหน้าที่ในการมองเห็น
จากการสอบสวน นายนรากร คนขับคันที่ 2 ให้การว่า รับแรงงานต่างด้าวมาจาก จ.เชียงใหม่ นำไปส่งที่กรุงเทพฯ โดยได้ค่าจ้าง 12,000 บาท เคยรับส่งมาแล้วประมาณ 7 ครั้ง ส่วนนายไตรภพ คนขับรถคันที่ 1 ให้การว่า รับแรงงานต่างด้าวมาจาก จ.ตาก นำไปส่งที่ จ.สุพรรณบุรี โดยได้ค่าจ้าง 12,000 บาท เคยรับส่งมาแล้ว 6-7 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจะทำการสอบสวนขยายผลเพื่อปราบปราบขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ ได้นำทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี และสถานีตำรวจภูธรโพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
