xs
xsm
sm
md
lg

ครูเพลงลูกทุ่งยันไม่ได้เป็นศิษย์ “พระบิดา” แจงไลฟ์สดโพสต์เฟซฯ แค่ประชดแต่สื่อกระเดียดตีความเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - “สัญญาลักษณ์ ดอนศรี” ครูเพลงลูกทุ่งอีสานชื่อดังที่บุรีรัมย์ ออกมายืนยันไม่ได้เป็นลูกศิษย์ “พระบิดา” แจงที่ไลฟ์สดโพสต์เฟซบุ๊กเป็นการประชดประเทียดแบบภาษาสุภาพ แต่สื่อนำไปตีความเองโดยไม่ได้สอบถามข้อเท็จจริง เรียกว่า “ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด” ทำให้สังคมเข้าใจผิดและต่อว่าให้เสียหาย

วันนี้ (12 พ.ค.) จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “สัญญาลักษณ์ ดอนศรี” ได้ไลฟ์สดและโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับ “พระบิดา” หรือ นายทวี หนันลา หรือ “ฤษีโจเซฟ” เจ้าสำนักฤาษีปฏิบัติธรรมประหลาด อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ รักษาโรคด้วยวิธีสุดเพี้ยนด้วยการให้ดื่มกินน้ำปัสสาวะ อุจจาระ เสมหะ และขี้ไคล เก็บศพไว้รอการขึ้นสวรรค์จำนวนมาก แล้วสื่อหลายสำนักนำคลิปและข้อความในเฟซฯ ไปนำเสนอ ตีความขยายความเองโดยไม่ได้สอบถามข้อเท็จจริง จนทำให้สังคมเข้าใจผิดหาว่าเป็นลูกศิษย์พระบิดานั้น

นายสัญญาลักษณ์ ดอนศรีฐิติโชติ
ล่าสุด นายสัญญาลักษณ์ ดอนศรีฐิติโชติ หรือที่รู้จักกันในนาม “สัญญาลักษณ์ ดอนศรี” ครูเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ชาวอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินมรดกอีสาน สาขาวรรณศิลป์ (ประพันธ์เพลงลูกทุ่ง) ประจำปีพุทธศักราช 2555 ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวของ “พระบิดา” หรือ นายทวี หนันลา เจ้าสำนักฤาษี จ.ชัยภูมิ ตนก็ได้ไลฟ์สด และโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับข่าว “พระบิดา” จริง

แต่วิธีการไลฟ์ หรือโพสต์เฟซฯ ของตัวเองจะแตกต่างจากชาวบ้านทั่วไป เพราะตนเองจะใช้สำนวนประชดประเทียด คือการกล่าวร้ายแต่ใช้ภาษาที่สุภาพ เช่น พูดทำนองว่า อาหารพระบิดา ขนมพระบิดา หรือผลิตภัณฑ์พระบิดาน่าสนับสนุนนะ ปลอดภัยนะ เช่น ปลาร้ามีหนอน คนอีสานเขากินกันมานานตั้งแต่โบราณ กินแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์นะ ก็เป็นการประชดมีที่ไหนกินปลาร้าแล้วได้ขึ้นสวรรค์ โดยเฉพาะตนเองเป็นครูภาษาไทยมาก่อนก็จะใช้ภาษาที่สวยงาม แต่จริงๆ นัยข้อความดังกล่าวหมายถึงสิ่งที่ไม่ดี เป็นการสะท้อนว่าคนเรางมงายถึงขนาดนั้นเลยเหรอ


ทั้งยังเปรียบเทียบทำนองว่า พระบิดาเก่งนะที่สามารถโน้มน้าวให้คนมาเป็นสาวกเขาได้ ทั้งยังไปกราบไหว้ กินสิ่งปฏิกูล สิ่งสกปรกของเขาได้ทั้งที่เขาเองไม่ได้กิน ก็เป็นการประชดประชัน อย่างเช่นเวลาเราพูดประชดใครทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องว่า อ๋อดีนะ ทำอย่างนี้ดีนะ

แต่สื่อหลายสำนักกลับนำสิ่งที่ตนเองพูด หรือข้อความที่โพสต์ไปตีความเอาเองกล่าวหาว่าตนเองเป็นลูกศิษย์พระบิดา ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตนเองจะไปเป็นลูกศิษย์คนแบบนั้นได้ยังไง เพราะส่วนตัวไม่เจอ ไม่เคยรู้จัก ก็เห็นแต่ในสื่อที่กำลังเป็นข่าวโด่งดัง ที่สำคัญไม่ได้ชื่นชมในสิ่งที่เขาทำ


ส่วนที่โพสต์ข้อความว่าลูกศิษย์พาพระบิดาไปอยู่ที่ผานกเค้า จะไปเผยแพร่ลัทธิ ทำอาหารขายสร้างเศรษฐกิจชุมชน ก็เป็นการประชด ซึ่งสิ่งที่ตนเองโพสต์ไปส่วนใหญ่แฟนเพจตัวเองก็เข้าใจในสิ่งที่สื่อออกไป แต่สื่อบางสำนักกลับนำข้อความที่ตนเองโพสต์ไปตีความ ขยายความเองหาว่าตนเป็นศิษย์พระบิดา ซึ่งทำให้ตนเองเสียหายเพราะเผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งตนเองก็เป็นคนที่พอมีชื่อเสียงในสังคม บางคนก็เข้ามาคอมเมนต์ด่าเสียๆ หายๆ

นายสัญญาลักษณ์ยังบอกอีกว่า ทุกวันนี้สื่อต่างๆ จะเน้นหยิบข่าวในโซเชียลไปลงแล้วตีความเอง ไม่ได้สอบถามข้อมูลจากแหล่งข่าวหรือคนที่โพสต์ อย่างเช่นกรณีของตัวเองก็ไม่มีนักข่าวมารีเช็กหรือสอบถามอะไรก่อนจะนำไปเสนอข่าว จึงอยากจะฝากนักข่าวทุกคนด้วยว่าจะนำเสนอข่าวควรจะรีเช็กสอบถามว่าสิ่งที่เขาโพสต์ต้องการจะสื่อสารอะไร ไม่ใช่เห็นแค่ในโพสต์แล้วไปตีความเอง เขาเรียกว่าฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด

นายสัญญาลักษณ์ยังได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า เรื่องความเชื่อไม่สามารถหลุดพ้นจากคนทั้งโลกได้ เพียงแต่ขอให้มีสติในการเชื่อในสิ่งๆ นั้นว่าจริงหรือไม่ เป็นไปได้ไหม อย่างกรณีพระบิดา ก็เป็นความเชื่อของคนที่สิ้นหวังไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิต ขึ้นอยู่กับการใช้สติให้รอบคอบ






กำลังโหลดความคิดเห็น